Page 73 - ทฤษฎีและแนวปฏิบัติในการบริหารการศึกษา หน่วยที่ 9
P. 73
การบริหารสมรรถนะทรัพยากรบุคคลในองค์การ 9-63
ตัวอย่างก ารพ ัฒนาบุคลากรระดับบ ังคับบัญชา ได้แก่ การให้ทุนการศ ึกษาแก่พนักงานท ี่มีศักยภาพ
สูงในร ะดับป ริญญาโท สาขาเทคโนโลยีเยื่อและก ระดาษ ซึ่งเป็นห ลักสูตรเฉพาะท างของบริษัทไม่มีเปิดส อน
ในสถาบันอื่น ดังนั้น จึงเป็นการพัฒนาหลักสูตรร่วมกันระหว่างพนักงานระดับจัดการ หัวหน้าแผนกที่มี
ความเชี่ยวชาญ และนักเรียนทุนของบริษัทที่มารวมตัวกันในรูปแบบคณะกรรมการพัฒนาพนักงานด้าน
เทคโนโลยี
วิธีการ อื่นๆ ที่นำ�มาใช้ในก ารพ ัฒนาบ ุคลากรร ะดับป ฏิบัติก ารน อกเหนือจากการให้ทุนการศึกษาต ่อ
แล้ว ได้แก่ การส่งเสริมผ ่านก ิจกรรมป รับปรุงค ุณภาพต ่างๆ (bottom up activities) นอกเหนือจ ากก ารส ร้าง
การม ีส ่วนร่วมข องบุคลากรแล้ว บริษัทฯ พบว่าก ิจกรรมเหล่านี้ได้พ ัฒนาความสามารถข องบ ุคลากร และส่ง
ผลต ่อก ารเพิ่มผลผลิตในระดับองค์กรได้อ ีกด้วย
การบ ริหารทรัพยากรบุคคลบนระบบส มรรถนะ (competency-based development) ของบ ริษัท
ผลิตภัณฑ์กระดาษไทย จำ�กัด เป็นแ บบอย่างที่ด ีว ่าในก ารพ ัฒนาบ ุคลากร กล่าวค ือ องค์กรต้องม ีว ิสัยทัศน์
ด้านบุคลากรในระยะยาวอย่างชัดเจน และสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ และทิศทาง
การด ำ�เนินธ ุรกิจเพื่อจ ะก ำ�หนดแ นวทางไดอ้ ย่างถ ูกต ้องแ ละส อดคล้องก ับก ารเปลี่ยนแปลง และส ่งผ ลต ่อก าร
ปฏิบัติง านของบุคลากร และผ ลประโยชน์ท ี่องค์การจะได้รับในที่สุด
เรือ่ งท ่ี 9.3.3 บทส รปุ แ ละข อ้ ส งั เกตบ างป ระการในก ารน�ำ การบ รหิ าร
สมรรถนะทรัพยากรบคุ คลม าใช้ในอ งคก์ าร
แนวคิดเกี่ยวกับสมรรถนะที่ชัดเจนและสามารถนำ�มาใช้การบริหารจัดการได้นั้น เริ่มจากยุคของ
David C. Mc Cleland ในช ่วงป ี 1970 จากก ารท ีเ่ขาไดจ้ ัดต ั้งบ ริษัท Mcber Company ในก ารศ ึกษาว ิจัยแ ล้ว
สรา้ งแ บบท ดสอบในก ารค ดั เลอื กเจา้ ห นา้ ทกี่ ารท ตู ใหก้ บั ร ฐั บาลส หรฐั อเมรกิ า จากก ารท แี่ ตเ่ ดมิ ไดม้ กี ารท ดสอบ
เรื่องค วามร ู้ ความส ามารถแ ละเชาวนป์ ัญญาแ ล้ว ปรากฏว ่าเจ้าห น้าทีก่ ารท ูตท ีไ่ดร้ ับก ารค ัดเลือกไปป ฏิบัตงิ าน
ด้านก ารท ูตในต ่างป ระเทศในนามข องร ัฐบาลไม่ประสบค วามส ำ�เร็จในการป ฏิบัติง าน เช่น ไม่ส ามารถป รับต ัว
เขา้ ก บั ส ภาพแ วดลอ้ มท างเศรษฐกจิ สังคม และว ฒั นธรรมข องป ระเทศท ไี่ปป ฏบิ ตั งิ านได้ รัฐบาลส หรฐั อเมรกิ า
จึงไดจ้ ้าง Mc Cleland จัดท ำ�เครื่องม ือในก ารค ัดเลือกเจ้าห น้าทีก่ ารท ูตใหม่ โดยใหอ้ ยูบ่ นห ลักก ารค วามเสมอ
ภาคไม่เลือกเชื้อช าติ ผิวพ รรณ เผ่าพ ันธุ์ ฯลฯ เพราะในส ังคมค นอ เมริกันในส มัยน ั้นม ปี ัญหาในเรื่องข องค วาม
เสมอภ าคม าก Mc Cleland จึงไดศ้ ึกษาว ิจัยโดยแ ยกบ ุคลากรก ารท ูตอ อกเป็น 2 กลุ่ม คือก ลุ่มท ีม่ ผี ลส ำ�เร็จใน
งานอ ยรู่ ะดบั ป กตหิ รอื อ ยใู่ นเกณฑเ์ ฉลีย่ เขาเรยี กว า่ เปน็ พ วก “Average Performer” และก ลุม่ ท มี่ ผี ลส �ำ เรจ็ ใน
งานอ ยู่ในร ะดับย อดเยี่ยมห รือส ูงก ว่าเกณฑ์เฉลี่ยโดยจ ะเรียกว ่าพ วก “Superior Performer” ต่อจ ากน ั้นเขา