Page 119 - การจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์
P. 119
กระบวนการดำ�รงชีวิต 2-109
2) เน้ือไม้ เป็นส่วนที่อยู่ถัดจากเปลือกไม้เข้าไปทางด้านในทั้งหมด ได้แก่ ส่วนของ
ไซเลมข ั้นท ี่ส อง และ pith เนื้อไม้จ ะแ บ่งอ อกเป็น 2 ประเภท คือ ไม้เนื้อแ ข็ง (hard wood) ซึ่งพ บในพ ืชด อ ก
ส่วนใหญ่ และไม้เนื้ออ่อน (soft wood) ซึ่งพบในจิมโนสเปิร์ม โดยเฉพาะพืชพวกโคนิเฟอร์ (conifers)
(1) ไม้เนื้อแข็ง ประกอบด้วยเซลล์ท่ีมีผนังหนาทำ�หน้าท่ีลำ�เลียงและสร้างความ
แข็งแรงให้แก่ล�ำ ต้น ไซเลมของพวกไม้เน้ือแข็งนอกจากจะประกอบด้วยเทรคีด (tracheid) แล้วยังมีเวสเซล
(vessel) ด้วยซ่ึงทำ�ให้ไม้เนื้อแข็งแตกต่างจากไม้เน้ืออ่อน เพราะไม้เน้ืออ่อนจะไม่มีเวสเซล นอกจากน้ีไม้เน้ือ
แขง็ ยังม ีเสน้ ใย (wood fiber) ดว้ ย เนือ้ ไมท้ ม่ี เี วสเซลเรียก พอรัสวูดมี 2 พวก คอื เนอ้ื ไมท้ รี่ ูเวสเซลเลก็ และ
มีข นาดเท่าๆ กนั (diffuse-porous wood) และเนื้อไมท้ รี่ ูเวสเซลใหญ่ (ring-porous wood) บรเิ วณเน้ือไม้
ท่รี เู วสเซลเล็กและมขี นาดเท่าๆ กนั เกดิ ข้นึ ในฤ ดรู ้อนห รอื ฤดูใบไม้ร่วง ซ่ึงเป็นร ะยะทแี่ ห้งแล้งน ํ้าในด นิ ม นี อ้ ย
อตั ราก ารเจรญิ เตบิ โตจ งึ เกดิ ข น้ึ น อ้ ย เซลลม์ ขี นาดเลก็ ผนงั เซลลห์ นา เนอื้ ไมบ้ รเิ วณน เ้ี รยี ก ซมั เมอ รว์ ดู (summer
wood) หรอื อ อทมั วดู (autumm wood) หรอื เลตว ดู (late wood) สว่ นบ รเิ วณเนอื้ ไมท้ รี่ เู วสเซลใหญเ่ กดิ ข น้ึ ใน
ฤดใู บไมผ้ ลิ ซง่ึ เปน็ ร ะยะท มี่ คี วามช มุ่ ช น้ื ม าก การเจรญิ เตบิ โตเกดิ ข นึ้ อ ยา่ งร วดเรว็ เซลลม์ ขี นาดใหญ่ ผนงั เซลล์
บาง เน้อื ไม้บรเิ วณนี้เรียกวา่ สปรงิ วูด (spring wood) หรอื เออรล์ วี ูด (early wood)
(2) ไม้เนื้ออ่อน ประกอบด้วยเทรคีดเป็นส่วนใหญ่ ทำ�หน้าที่ลำ�เลียงและสร้าง
ความแขง็ แรงใหแ้ กล่ ำ�ตน้ ไม้พวกนี้ไม่ม เี วสเซล เรียก นอน-พอร ัสว ดู (non-porous wood) เทรค ีดท ่ีเกดิ ข้นึ
ในฤ ดใู บไมผ้ ลหิ รอื ฤ ดฝู นจ ะใหญแ่ ละผ นงั บ างก วา่ เทรค ดี ท เ่ี กดิ ในฤ ดรู อ้ นห รอื ฤ ดใู บไมร้ ว่ ง ซงึ่ ก ารเจรญิ เตบิ โต
เกิดข ึน้ ช ้า เซลลข์ องเทรค ีดจะเลก็ และผ นงั เซลล์ห นา
เปลอื กไมแ้ ละเนอื้ ไมข้ องพ ชื พ วกส นเขาจ ะม ที อ่ เรซนิ (resin duct หรอื resin canal) ซงึ่ เนอื้ เยอื่
พาเรงคิม าท ี่อยู่ร อบท่อจ ะส ร้างโอเลโอเรซิน (oleoresin) เมื่อล ำ�ต้นเกิดบาดแผล โอเลโอเรซินจะไหลออกมา
ปิดบริเวณที่เป็นบาดแผลป้องกันไม่ให้แมลงและราทำ�อันตรายลำ�ต้น โอเลโอเรซินนี้จะให้สารเทอร์เพนไทน์
(turpentine) และช ันสนหรือเรซิน (resin)
เนือ้ ไมห้ รอื ส ่วนข องไซเลมข ั้นท ีส่ องท เี่ กดิ ข ึน้ ในแ ตล่ ะป เีรียก วงป ี (annual ring หรอื growth
ring) วงปีแต่ละวงประกอบด ้วย spring wood หรือ early wood และ summer wood หรือ late wood
บริเวณ spring wood จะอยู่ข อบในข องวงปี สีจ ะจ างเนื่องจากผนังเซลล์บางเพราะย ังไม่มีส ารม าส ะสมม าก
ส่วนบ ริเวณ summer wood จะอ ยู่ข อบน อกข องว งป ี สีจ ะเข้ม กว ่าเนื่องจากผ นังเซลล์ห นาเพราะม ีส ารส ะสม
มาก บริเวณ summer wood นี้จะแ คบก ว่าบริเวณ spring wood
ส่วนข องเนื้อไม้จะแบ่งเป็นกระพี้ (sapwood) และแ ก่น (heartwood) แกน่ เป็นบ ริเวณแ กน
กลางเป็นส ่วนข องไซเลมข ั้นท ี่ส องท ี่ต ายแ ละเลิกท ำ�ห น้าที่ในก ารล ำ�เลียงแ ล้ว สีจ ะเข้มเนื่องจากม ีส ารต ่างๆ มา
สะสม เช่น กัม (gum) แทนนิน (tannin) ชันหรือเรซิน (resin) เป็นต้น ในเทรคีดของแ ก่นม ักถูกอุดตันโดย
ไทโลส (tylose) ซึ่งเป็นผนังของพ าเรงคิม าท ี่ยื่นอ อกมาเข้าไปในท่อ (lumen) ของเวสเซล กระพี้ เป็นบริเวณ
รอบน อกข องแ ก่น เป็นส ่วนของไซเลมข ั้นท ี่สองท ี่ย ังม ีช ีวิตและทำ�หน้าที่ในก ารลำ�เลียงได้ บริเวณด้านในของ
กระพี้จะค ่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นแก่น และจ ะเกิดกระพี้ใหม่จ ากก ารเจริญเติบโตขั้นที่สองในแ ต่ละปี