Page 61 - ชีววิทยาและเคมีสำหรับครู
P. 61
4-51
2. โครโมโซมป ระกอบด ว้ ยด เี อน็ เอพ นั ร วมอ ยกู่ บั โปรตนี โดยม ขี ัน้ ต อนก ารม ว้ นพ บั จ นก ระทัง่ ไดเ้ ปน็
โครโมโซม ดังนี้ค ือ เริ่มจากด ีเอ็นเอท ี่เป็นส ายย าวพันเป็นเกลียว ซึ่งม ีข นาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 นาโนเมตร
จะม าพ ันร อบก ลุ่มโปรต ีนฮ ิส โตน เป็นร ะยะ คล้ายส ายส ร้อยล ูกปัด โปรตีนแ ต่ละก ลุ่มจ ะป ระกอบด ้วย โปรตีน
H2A, H2B, H3 และ H4 อย่างล ะ 2 โมเลกุล รวมเป็น 8 โมเลกุล (octamer) โปรตีนละก ลุ่มจะมีดีเอ็นเอ
พันอ ยู่เกือบ 2 รอบ เรียกดีเอ็นเอท ี่พ ันอยู่กับก ลุ่มโปรตีนฮิส โตนน ี้ว ่า นิวค ลีโอโซม (nucleosome) มีความ
หนาประมาณ 10 นาโนเมตร จากนั้นสายนิวคลีโอโซมจะมาพันเป็นเกลียว เรียกว่า โซลีนอยด์ (solenoid)
มีความหนาเพิ่มขึ้นเป็น 30 นาโนเมตร เส้นโซลีนอยด์ จะพันเป็นเกลียวอีกครั้ง เรียกว่า สายโครมาทิน
(chromatin fiber) มีเส้นผ่านศ ูนย์กลาง 300 นาโนเมตร จากนั้น สายโครมาท ิน จะส ร้างเป็นห ่วง (loop) มี
ความห นาเพิ่มเป็น 700 นาโนเมตร จากนั้นจะขดต ัวก ลายร ูปร่างเป็นโครโมโซม มีความหนาประมาณ 1,400
นาโนเมตร
3. กระบวนการที่ทำ�ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครโมโซมแบบอนิวพลอยดี คือ เกิดจากความ
ผิดปกติในการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส คือ การไม่แยกจากกันของโครโมโซมที่เป็นคู่กัน (homologous
chromosome) ในระยะไมโอซิส I หรือการไม่แยกจากกันของโครมาติดที่มาจากโครโมโซมเดียวกัน ใน
ระยะไมโอซิส II ทำ�ให้โครโมโซมเข้าไปสู่ขั้วเดียวกัน ส่วนอีกขั้วหนึ่งได้รับโครโมโซมขาดไป ก็จะได้เซลล์
สืบพันธุ์ที่มีจำ�นวนโครโมโซมม ากกว่า และน้อยกว่าป กติ คือ n + 1 และ n — 1 (ดังภ าพ) เรียกป รากฏการณ์
นี้ว่า nondisjunction ดังนั้นเมื่อเซลล์สืบพันธุ์ที่มีจำ�นวนโครโมโซมผิดปกติ ได้รับการผสมจากเซลล์
สืบพันธุ์ปกติห รืออาจจะผสมก ับเซลล์สืบพันธุ์ที่ผ ิดป กติด้วยก ัน ก็จะได้ส ิ่งม ีช ีวิตพวกอน ิวพ ลอยด ีเกิดข ึ้น
Non-disjunction at meiosis I Non-disjunction at meiosis II
(2n) (2n)
(n + 1) (n — 1) (n) (2n)
(n + 1) (n + 1) (n — 1) (n — 1) (n + 1) (n — 1) (n) (n)
เซลล์สืบพันธุ์ผ ิดป กติ เซลล์ส ืบพันธุ์ผิดป กติ เซลล์ส ืบพันธุ์ปกติ