Page 38 - การบริหารความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ
P. 38
11-28 การบริหารความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ
เมอื่ มกี ารเปดิ ใชง้ านอปุ กรณเ์ ปน็ ครงั้ แรกนนั้ กระแสไฟฟา้ จะถกู ดดู ไปใชง้ านเปน็ จำ� นวนมากซงึ่ เรยี กวา่ in-rush
current ซึ่งอาจท�ำให้เกิด sag กับอุปกรณ์อ่ืน ๆ ดังนั้น ควรแยกแหล่งจากกระแสไฟฟ้าให้กับดาต้าเซ็นเตอร์ออกจาก
ไฟฟ้าท่ีใช้กับระบบอื่น ๆ ในอาคาร
มาตรฐานทใ่ี ชอ้ า้ งองิ ในการออกแบบดาตา้ เซน็ เตอรใ์ นประเทศไทย ไดแ้ ก่ มาตรฐานการตดิ ตง้ั ทางไฟฟา้ สำ� หรบั
ประเทศไทย พ.ศ. 2545 ส่วนมาตรฐานในต่างประเทศท่ีใช้อ้างอิง ได้แก่ National Electric Code (NEC) มาตรฐาน
ท่ีกล่าวถึงงานออกแบบไฟฟ้าท่ัวไป นอกจากจะออกแบบไฟฟ้าให้ถูกต้องตามมาตรฐานแล้ว ผู้ออกแบบจะต้องค�ำนึง
ถึงความสะดวกในการบ�ำรุงรักษาหรือเร่ืองความคล่องตัวขณะใช้งานและความสามารถในการต่อขยายได้ในอนาคต
ดังน้ัน การออกแบบตามมาตรฐานข้างต้นนั้นจึงเป็นเกณฑ์ขั้นต่ําท่ีสุดที่ใช้ในการออกแบบเท่าน้ัน เพราะการออกแบบ
ระบบไฟฟ้าส�ำหรับดาต้าเซ็นเตอร์จะต้องค�ำนึงถึงเสถียรภาพของระบบ การบ�ำรุงรักษา ความปลอดภัย ความคล่องตัว
และความสามารถในการต่อขยาย และคุณภาพของพลังงานไฟฟ้าสูงสุด
อุปกรณ์ไฟฟ้าในห้องคอมพิวเตอร์จะแบ่งโหลดออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
- โหลดไฟฟ้าปกติ (normal load) ได้แก่ แสงสว่างท่ัวไปในศูนย์คอมพิวเตอร์ เต้ารับไฟฟ้าบางส่วน
เป็นต้น
- โหลดไฟฟ้าฉุกเฉิน (emergency load) ได้แก่ ระบบปรับอากาศควบคุมความช่ืน ระบบยูพีเอส
ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ ระบบแจ้งเพลิงความไวสูง ระบบ access control ระบบตรวจจับนํ้ารั่วซึมใต้พื้น เป็นต้น
- โหลดไฟฟ้าของ UPS (UPS load) ได้แก่ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเครือข่ายต่าง ๆ เป็นต้น
ในบางกรณีดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดเล็กที่ไม่มีเคร่ืองก�ำเนิดไฟฟ้าก็จะต่อ UPS เข้ากับไฟฟ้าปกติโดยตรง กรณีท่ี
ไฟฟ้าดับเป็นเวลานานห้องคอมพิวเตอร์ก็จะมีอุณหภูมิสูง และเครื่องยูพีเอสก็จะส�ำรองไฟฟ้าให้กับเคร่ืองคอมพิวเตอร์
ในระยะเวลาที่จ�ำกัด ขึ้นอยู่กับปริมาณแบตเตอรีที่ติดอยู่กับเครื่อง ส่วนดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีความส�ำคัญมากต้องติดต้ัง
เคร่ืองก�ำเนิดไฟฟ้าด้วย เพ่ือส�ำรองไฟฟ้ากรณีกระแสไฟฟ้าขัดข้องเป็นเวลานาน ซึ่งอาจเกิดความผิดปกติในการ
จ่ายไฟ หรือเกิดจากการบ�ำรุงรักษาสายส่งหรือระบบไฟฟ้าหลักของอาคาร เคร่ืองก�ำเนิดไฟฟ้าก็จะส�ำรองไฟฟ้าให้กับ
ดาต้าเซ็นเตอร์แทน โดยการถ่ายโอนด้วยระบบ ATS (Automatic Transfer Switch)
4.1 การเดนิ สายไฟฟา้ เมนไฟฟา้ สำ� หรบั ดาตา้ เซน็ เตอรต์ อ้ งมขี นาดเพยี งพอตอ่ การใชง้ านและรองรบั การขยาย
ในอนาคตได้เหมาะสมส�ำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ทีมีความส�ำคัญมาก ๆ อาจจะออกแบบเมนไฟฟ้าให้เป็นแบบหลายแหล่ง
(multi feeder) โดยใช้เมนไฟฟ้ามาจากหม้อแปลง สถานีไฟฟ้าย่อย (sub station) หรือตู้เมนไฟฟ้าที่ต่างกัน เพ่ือเพิ่ม
ความพร้อมใช้งาน (availability) แก้ระบบได้ แต่ก็จะท�ำให้งบประมาณในการติดตั้งไฟฟ้าสูงข้ึนไปด้วย
การเลือกใช้สายไฟฟ้าท่ีเหมาะสมมีผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพ เสถียรภาพและความปลอดภัยในการ
ใช้งานปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกสายไฟฟ้าในดาต้าเซ็นเตอร์ ได้แก่ ประเภทการใช้งาน พิกัดแรงดันและกระแส แรงดัน
ตกคร่อม ลักษณะการติดต้ัง รวมถึงสภาวะแวดล้อมของการติดตั้ง โดยเฉพาะกรณีของแรงดันตกคร่อมมักจะต้องมา
คดิ คำ� นวณแรงดนั ตกครอ่ มกรณตี อ้ งเดนิ สายไฟฟา้ ทมี่ รี ะยะทางไกล หรอื เปน็ สายไฟฟา้ ส�ำหรบั แรงดนั กระแสตรง -48V
ทจี่ ะมกี ระแสใชง้ านสงู อาจจะตอ้ งเพม่ิ ขนาดพน้ื ทหี่ นา้ ตดั หรอื เพม่ิ จำ� นวนสายเพอ่ื ลดคา่ ความตา้ นทานสายไฟฟา้ สำ� หรบั
เมนไฟฟ้าอาจจะใช้เป็นสายชนิด CV เพื่อลดขนาดพื้นที่หน้าตัดแทนที่จะใช้สายแบบ THW หรือ NYY (เป็นสายที่มี
ฉนวน 2 ชั้น)
สายไฟฟ้าส�ำหรับส�ำหรับวงจรย่อยภายในดาต้าเซ็นเตอร์แนะน�ำให้ใช้สายแบบ VCT เนื่องจากสายของวงจร
ย่อยของแต่ละวงจรจะรวมกันอยู่ภายในสายไฟฟ้าเส้นเดียวกัน ท�ำให้ติดต้ังและบ�ำรุงรักษาง่าย นอกจากนี้ยังป้องกัน
การบาดหรือการถลอกได้ดีกว่าสาย THW