Page 21 - ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสื่อมวลชน
P. 21
ภาพยนตร์ 5-11
มโู ตสโคป (Mutoscope) วติ าสโคป (Vitascope) ซงึ่ อปุ กรณภ์ าพยนตรต์ า่ งๆ ทส่ี รา้ งตอ่ กนั มาภายหลงั นนั้
สามารถถ่ายทำ� ภาพเคลือ่ นไหวและฉายลงบนจอเหน็ ภาพเคล่อื นไหวไดอ้ ยา่ งสมบูรณ์
ใน ค.ศ. 1895 ทีเ่ มอื งลีออง (Lyons) ประเทศฝรัง่ เศส สองพนี่ ้องตระกูลลมู แิ ยร์เจา้ ของโรงงาน
ผลติ อุปกรณ์ภาพถ่ายรายใหญใ่ นยโุ รป โอกูสต์ และหลุยส์ ลูมิแยร์ (Auguste and Louis Lumière) ผูน้ �ำ
แนวคดิ จากกลอ้ งคเี นโตกราฟและเครอื่ งฉายคเี นโตสโคปของเอดสิ นั มาปรบั ปรงุ และพฒั นา กระทงั่ ไดก้ ลอ้ ง
ถา่ ยภาพยนตรข์ นาดเบา มกี ลไกสำ� หรบั กวกั ดงึ มว้ นฟลิ ม์ ใหห้ มนุ สามารถใชม้ อื ถอื กลอ้ งถา่ ยภาพยนตรไ์ ด้
ซ่ึงสองพ่ีน้องลูมิแยร์ได้ตั้งชื่อกล้องน้ีว่า ซีเนมาโตกราฟ (Cinématographe) จากน้ันจึงทดลองน�ำกล้อง
ซีเนมาโตกราฟนี้ไปต่อเข้ากับเคร่ืองฉายและฉายภาพเคล่ือนไหวลงบนจอขนาดใหญ่ส�ำเร็จ สองพ่ีน้อง
ลมู ิแยร์ไดถ้ ่ายทำ� ภาพยนตร์และน�ำภาพยนตรอ์ อกฉายให้ผชู้ มเฉพาะกลมุ่ ดูมาเกือบตลอดทงั้ ปี จนกระท่ัง
ถึงเดือนธันวาคมในปีเดียวกันสองพี่น้องลูมิแยร์จึงได้น�ำภาพยนตร์ของตนเองออกฉายให้แก่สาธารณชน
ในกรุงปารีสไดช้ มกันเปน็ ครงั้ แรก จึงถือเป็นการเรม่ิ ต้นแห่งประวตั ศิ าสตรข์ องภาพยนตรน์ ับแต่นัน้ มา
ภาพท่ี 5.6 กล้องซีเนมาโตกราฟของสองพ่ีน้องตระกูลลูมิแยร์
ท่ีมา: http://www.google.co.th/
ภาพยนตร์เร่ืองแรกๆ ท่ีพ่ีน้องลูมิแยร์สร้างจะมีลักษณะเฉพาะไม่เหมือนใคร เพราะเนื่องจากทั้ง
สองพน่ี อ้ งไมไ่ ดเ้ ปน็ แคผ่ สู้ รา้ งสรรคภ์ าพยนตรแ์ นวใหมเ่ ทา่ นน้ั แตใ่ นขณะเดยี วกนั ทงั้ สองยงั เปน็ นกั ประดษิ ฐ์
และนักอุตสาหกรรมดว้ ย ภาพยนตร์ท่ีสองพีน่ อ้ งลมู แิ ยร์สร้างขนึ้ ระหว่าง ค.ศ. 1895-1896 ถึงแม้ว่าจะเปน็
ภาพยนตรเ์ รอื่ งสนั้ แตก่ เ็ ปน็ สง่ิ ทตี่ อ้ งนำ� มาคดิ คำ� นงึ ถงึ ความสำ� คญั ในแงม่ มุ ทางประวตั ศิ าสตรข์ องภาพยนตร์
เช่น ภาพยนตร์เร่ือง Arroseur et arrosé (Waterer and Watered, 1896) นับเป็นภาพยนตร์เรื่องสั้น
แนวตลกทนี่ ำ� เรอื่ งมาจากหนงั สอื พมิ พ์ ซงึ่ แสดงใหเ้ หน็ ภาพของคนทำ� สวนกำ� ลงั ใชส้ ายยางรดนำ้� ตน้ ไมแ้ ละ
มเี ดก็ ชายซกุ ซนคนหนง่ึ ยอ่ งมาขา้ งหลงั แลว้ เหยยี บสายยางจนนำ้� หยดุ ไหล พอคนทำ� สวนยกปลายสายยาง
ข้ึนมาดูเด็กชายคนน้ันก็ยกเท้าออกจากสายยาง ทำ� ใหน้ �้ำพุ่งใสห่ น้าคนท�ำสวน คนท�ำสวนโมโหว่ิงไลต่ าม
จับเด็กคนนั้นมาตีก้น ผู้ชมภาพยนตร์ในยุคนั้นต่างพากันหัวเราะชอบใจเพราะดูแล้วตลกขบขันและกลาย
เป็นตน้ แบบของภาพยนตรต์ ลก (comedy film) นับต้ังแต่น้นั เป็นต้นมา