Page 47 - ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสื่อมวลชน
P. 47
ภาพยนตร์ 5-37
ว่าจ้างนักแสดงและทีมงานมาผลิตภาพยนตร์ ให้ค�ำแนะน�ำในกระบวนการผลิตภาพยนตร์และเม่ือสร้าง
ภาพยนตรเ์ สร็จส้ินแล้วจึงจัดจ�ำหน่ายภาพยนตรไ์ ปยงั โรงภาพยนตร์
ผู้อ�ำนวยการสร้างที่รับเงินงบประมาณมาจากบริษัทผู้สร้างหรือผู้จัดจ�ำหน่ายภาพยนตร์ องค์กร
หรอื หนว่ ยงานดงั กลา่ วจะสง่ ผแู้ ทนของบรษิ ทั มาชว่ ยดแู ลงานในระหวา่ งการผลติ ภาพยนตร์ ผทู้ ไี่ ดร้ บั มอบ
หมายงานดังกล่าวคือผู้อ�ำนวยการบริหาร (executive producer) และผู้ที่ว่าจ้างเพ่ิมเติมอีกคนหน่ึงคือ
ผ้ชู ว่ ยผอู้ ำ� นวยการสรา้ ง (associate producer) หรืออาจเรยี กชือ่ เปน็ อยา่ งอื่นที่คลา้ ยกนั เขา้ ไปชว่ ยเหลอื
งานดา้ นตา่ งๆ ในลักษณะของการจัดการงาน เช่น จดั การเวลาในการทำ� งาน จัดการด้านเงนิ งบประมาณ
หรือแมก้ ระทง่ั การสรา้ งความเช่ือถือและการสร้างแรงจูงใจให้แก่ผูร้ ว่ มงาน
2. ผู้เขียนบท (screenwriter) คือผู้พัฒนาความคดิ นบั ต้งั แต่เร่มิ ตน้ หรอื เป็นผ้ดู ัดแปลงเรอื่ งจาก
ชนิ้ งานเขยี นของผเู้ ขยี นทม่ี มี ากอ่ นนใ้ี หเ้ ปน็ บทภาพยนตร์ การดดั แปลงบทภาพยนตรอ์ าจจะนำ� เรอ่ื งมาจาก
นวนยิ าย ละครเวที ดนตรี หรอื เรอ่ื งจากแหลง่ กำ� เนดิ อนื่ การทำ� งานของผเู้ ขยี นบทภาพยนตรแ์ บง่ ออกเปน็
2 แนวทาง คอื ผเู้ ขยี นบททำ� งานประจำ� ตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมายใหเ้ ขยี นบทหรอื ผเู้ ขยี นบททำ� งานตามลกั ษณะ
จ้างใหเ้ ขียนงานอิสระ แต่กอ่ นการซือ้ ขายบทภาพยนตร์ ผู้อ�ำนวยการสร้างต้องตดั สนิ ใจวา่ จะใหเ้ ขยี นเปน็
บทภาพยนตรใ์ หมเ่ ลยหรือให้ผเู้ ขียนเรอ่ื งเดิมเปน็ คนเขยี นบท หรือใหผ้ ู้เขียนบทคนใหมเ่ ขา้ มาเขียนบท
ข้ันแรกของการเขียนบทภาพยนตร์ต้องสร้างเค้าโครงเรื่อง (outline) ขึ้นมาก่อน โดยการ
พรรณนาความใหเ้ หน็ เหตกุ ารณก์ ารดำ� เนนิ เรอ่ื งและพลอต (plot) ตามลำ� ดบั เหตกุ ารณ์ โครงเรอื่ งทเี่ ขยี นมา
อาจมีเพียงหนึ่งหน้าหรือสองหน้ากระดาษเท่านั้น รูปแบบการเขียนบทต่อมาคือทรีตเมนต์ (treatment)
หรอื บทบรรยายเรอ่ื งราวออกมาเหมอื นมภี าพเคลอ่ื นไหว โดยการพรรณนาความใหเ้ หน็ ถงึ รายละเอยี ดของ
ภาพยนตร์ซ่งึ ประกอบด้วยขอ้ ความทีเ่ ขียนในรปู บทสนทนา (dialogue) ทเ่ี กดิ ขนึ้ ในฉากทงั้ หมด รวมทง้ั
ลำ� ดับเหตกุ ารณ์ยอ่ ยๆ ทพี่ ฒั นาข้นึ มาด้วย
ดังน้ัน ผู้เขียนบทภาพยนตร์ต้องเป็นผู้เขียนบทด้วยตนเองตั้งแต่เร่ิมต้นและเป็นผู้เขียน
รายละเอยี ดทงั้ หมดเพม่ิ เตมิ ลงไปในบท การกระทำ� เชน่ นเ้ี ปน็ การลำ� ดบั เหตกุ ารณใ์ หด้ ำ� เนนิ ไปขา้ งหนา้ ตาม
เวลา (time) และพนื้ ทวี่ า่ ง (space) ของเรอ่ื ง เปน็ การพรรณนาถงึ ลกั ษณะทางกายภาพของสง่ิ ทจ่ี ะปรากฏ
ให้เหน็ รวมท้ังการเสริมแตง่ บทสนทนาและการแสดงทั้งหมดในบทภาพยนตรอ์ กี ดว้ ย
บทภาพยนตร์อาจจะช้ีบอกให้รู้ว่ากล้องถ่ายภาพยนตร์น้ันจะวางอยู่ท่ีต�ำแหน่งใดและต้องท�ำให้
กล้องเคลอื่ นทีไ่ ปในขณะถ่ายทำ� อยา่ งไร ชบี้ อกเกย่ี วกับการเปลย่ี นภาพและเสียงในระหว่างฉาก เช่น การ
ท�ำภาพจางซ้อน (dissolve) ให้ภาพหนึ่งค่อยๆ จางหายไปและขณะเดียวกันก็มีภาพใหม่เข้ามาแทนที่
การเฟดภาพเข้า (fade in) จากที่เห็นจอภาพมืดแล้วค่อยๆ มีภาพหน่ึงเข้ามาแทนที่ การเฟดภาพออก
(fade out) คือจากทเี่ ห็นภาพหน่งึ ค่อยๆ จางหายไปและความมืดเข้ามาแทนภาพที่อยูบ่ นจอนน้ั และการ
ตดั ต่อตรง (straight cut) คือตดั ภาพจากฉากหนงึ่ ตอ่ ไปอกี ฉากหน่ึง
3. ผู้ก�ำกับภาพยนตร์ (Director) คือผู้คดิ วิเคราะหบ์ ทและแปลความบทออกมาเป็นภาพท่ีผชู้ ม
ภาพยนตรจ์ ะไดเ้ หน็ อยบู่ นจอ เปน็ ผชู้ แี้ นะแกผ่ แู้ สดงและทมี งานสรา้ งด�ำเนนิ งานไปตามจนิ ตภาพทไี่ ดค้ ดิ ไว้
หลายคนใฝ่ฝันอยากเป็นผู้ก�ำกับภาพยนตร์หรือเป็นผู้ควบคุมการสร้างสรรค์งานภาพยนตร์ทุกอย่าง
โดยทั่วไปบทบาทของผู้ก�ำกับภาพยนตร์มีกว้างไปกว่าน้ีอีก คือแทนท่ีจะท�ำงานร่วมกันระหว่างผู้ก�ำกับ