Page 23 - การสื่อข่าวและการเขียนข่าว
P. 23

แหล่งข่าว แหลง่ ข้อมูล และความน่าเชื่อถอื ของข้อมลู 6-13

3. 	 ประเภทของแหล่งข้อมูลตามลักษณะท่ีปรากฏ

       แหล่งข้อมลู ท่ีไม่ใช่บคุ คล ถา้ แบง่ ตามลักษณะที่ปรากฏ ในทีน่ แ้ี บง่ เปน็ 5 ประเภท ได้แก่
       3.1 	แหล่งขอ้ มูลทเี่ ป็นเอกสารหรือสง่ิ พิมพ์
       3.2 	แหลง่ ข้อมลู อิเลก็ ทรอนกิ ส์
       3.3 	แหลง่ ขอ้ มลู ทเ่ี ปน็ สถานท่ี
       3.4 	แหลง่ ขอ้ มูลจากช่องทางข่าวสาร  
       3.5 แหลง่ ขอ้ มูลจากส�ำนกั ข่าวหรือองค์กรดา้ นการข่าว
       3.1 	แหล่งข้อมูลท่ีเป็นเอกสารหรือสิ่งพิมพ์ เปน็ แหลง่ ขอ้ มูลที่เปน็ ข้อเขียน (written sources)
ทจ่ี ะขยายความในท่นี ้ี ไดแ้ ก่ หนงั สือพมิ พ์ แฟม้ ขา่ ว เอกสารข่าวแจก วารสารวชิ าการ วารสารหนว่ ยงาน
รายงานผลการวิจยั และรายชอ่ื ในสมดุ โทรศัพท์

            1) หนังสือพิมพ์ เป็นแหล่งข้อมูลที่ผู้ส่ือข่าวจ�ำเป็นต้องอ่านและติดตามความก้าวหน้าและ
ความทันสมัยของข้อมลู ขา่ วสารรายวัน ทัง้ ท่ีเป็นเหตุการณแ์ ละสถานการณ์ โดยตดิ ตามจากหนังสือพิมพ์
ฉบับต่างๆ ทั้งหนังสือพิมพ์ท่ีเน้นเนื้อหาข่าวท่ัวไป และหนังสือพิมพ์ที่เน้นเนื้อหาข่าวเฉพาะด้าน ดังเช่น
หนงั สือพมิ พ์แนวเศรษฐกจิ หรอื ธรุ กจิ ผ้สู ่อื ขา่ วท่ไี ด้รับมอบหมายงานให้ท�ำงานขา่ วสายใด ยง่ิ ตอ้ งตดิ ตาม
ขอ้ มูลข่าวสารจากหนังสอื พมิ พท์ เี่ น้นเนอื้ หาดา้ นนน้ั ๆ

            ข้อมูลข่าวสารจากหนังสือพิมพ์มีความส�ำคัญย่ิงกว่าสื่อใดๆ เนื่องจากผ่านกระบวนการ
บรรณาธิกรขา่ ว ท่ีใหค้ วามสำ� คญั กับการตรวจสอบความถูกตอ้ งในด้านเนือ้ หา ตลอดจนกระบวนการผลติ
ทไี่ ดม้ าตรฐาน โดยเฉพาะจากองคก์ รสอ่ื กระแสหลกั ทไ่ี ดก้ อ่ ตง้ั และมชี อื่ เสยี งมายาวนาน นอกจากน้ี เนอื้ หา
ในหนงั สอื พมิ พย์ งั ประกอบดว้ ยบทความและบทวเิ คราะหท์ ผ่ี เู้ ขยี นผมู้ ปี ระสบการณแ์ สดงทศั นะตอ่ เหตกุ ารณ์
และสถานการณส์ ำ� คญั ทเี่ กดิ ขนึ้ อยา่ งเปน็ ปจั จบุ นั ทง้ั นผ้ี เู้ ขยี นบทความและบทวเิ คราะหใ์ นหนงั สอื พมิ พม์ กั
เปน็ ผมู้ ที กั ษะและความชำ� นาญในเชงิ การวเิ คราะหเ์ จาะลกึ ทจ่ี ะชว่ ยใหผ้ รู้ บั สารเขา้ ใจและเหน็ ภาพของเรอ่ื งราว
ท่ีเกิดขึน้ คล้ายกับการช่วยย่อยความซับซ้อนของเหตุการณ์ใหผ้ ูร้ บั สารเขา้ ใจงา่ ยข้นึ ผเู้ ขียนที่แสดงทศั นะ
ในหนงั สอื พิมพร์ ายวัน มกั เขยี นในรูปของคอลัมน์ โดยเรียกผเู้ ขียนนั้นวา่ คอลัมนสิ ต์

            2) 	 แฟ้มข่าว หรอื แฟม้ ขอ้ มลู หนงั สอื พมิ พ์ เปน็ บนั ทกึ เหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ รายวนั สำ� นกั ขา่ ว
กระแสหลกั ทมี่ มี าตรฐานในการปฏิบัตงิ านตามวชิ าชพี มกั เกบ็ รวบรวมข้อมูลขา่ วสารและเหตุการณส์ ำ� คัญ
แตล่ ะวนั ในรปู แบบของแฟม้ ขอ้ มลู ปจั จบุ นั มกั เปน็ แฟม้ ขอ้ มลู อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ โดยเกบ็ รวบรวมไวท้ ศ่ี นู ยข์ อ้ มลู
ขององคก์ รข่าว มีการจัดหมวดหมขู่ องประเดน็ ข่าวทีเ่ กิดข้ึน ซ่งึ ช่วยให้ง่ายต่อการสบื คน้ เพื่อการอ้างอิงใน
ภายหลัง การเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแฟ้มข่าวจ�ำเป็นต้องจัดระบบในด้านวัน เวลาท่ีแหล่งข้อมูลเผยแพร่
ขอ้ มูลขา่ วสารสสู่ าธารณะ ซง่ึ ถอื ได้ว่า เป็นข้อมูลขา่ วสารทม่ี กี ารรบั รู้แล้ว

            ข้อมูลจากแฟ้มข่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการสื่อข่าวในเชิงสถานการณ์ที่เกิดข้ึนในช่วงระยะ
เวลาท่ตี อ่ เนือ่ ง โดยจำ� เป็นตอ้ งสบื คน้ ขอ้ มูลที่เคยเกิดขน้ึ ในอดตี และยงั อาจสง่ ผลมาถึงปัจจบุ นั ซง่ึ จะช่วย
ใหส้ ามารถวิเคราะห์มูลเหตแุ ละความเป็นมาของการเกดิ เหตุการณไ์ ด้กระจา่ งชดั ขึ้น ด้วยข้อมลู หลักฐานท่ี
ปรากฏมาก่อน และอาจช่วยให้สามารถคาดการณเ์ รอื่ งทอ่ี าจจะเกิดในอนาคตด้วย
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28