Page 50 - การผลิตภาพยนตร์เบื้องต้น
P. 50
4-40 การผลิตภาพยนตร์เบ้ืองตน้
2. เทป ยู-เมติก 3/4 นิ้ว (3/4 -inch U-magic) ในปี 1969 บริษัท โซน่ี ได้นำ� เครื่องบนั ทึกวิดีโอ
คาสเซ็ท (videocassette recorder) สู่ทอ้ งตลาดเป็นคร้ังแรกในโลกแต่ก็ประสบความลม้ เหลวทนั ทเี พราะ
มีราคาแพง และต่อมาวดิ ีโอเทป ย-ู เมตกิ ไดร้ บั การยอมรับอย่างแพร่หลาย เชน่ ในฮอลลวี ูด
3. เทปเบตา้ แมก็ ซ์ (Betamax) ในปี 1975 บรษิ ทั โซนี่ เปดิ ตลาดอกี ครง้ั ดว้ ยการนำ� เทป ย-ู เมตกิ
มาปรบั ปรงุ ใหมใ่ หม้ ขี นาดเลก็ 1/2 นว้ิ เปน็ เบตา้ แมก็ ซ์ (Betamax) ตอ่ มาในทศวรรษท่ี 1980 เกดิ สงคราม
การตลาดวดิ โี อเทปขึ้น ทำ� ใหเ้ ทปเบต้าแมก็ ซ์ตอ้ งสูญเสยี การตลาดให้กบั เทป VHS ของบรษิ ทั JVC ไป
4. เทปวีเอชเอส และซูเปอร์วีเอชเอส (VHS and Super VHS) เทปวเี อชเอส (VHS) มาจาก
คำ� วา่ Vertical Helical Scan ภายหลงั เปลยี่ นมาเปน็ “video home system” เรมิ่ ออกสตู่ ลาดประมาณ
1 ปี หลังจากเทปเบต้าแม็กซ์ออกสู่ตลาด เทปวีเอชเอส (VHS) มีข้อได้เปรียบที่ส�ำคัญคือ มีความยาว
3 ช่ัวโมง ขณะท่ีเทปเบต้าแม็กซ์มีความยาวเพียงชั่วโมงเดียว แม้ว่าจะมีคุณภาพดีกว่าแต่เทปวีเอชเอส
มีจุดขายคือ “home video” จนกระทัง่ ในปี 2003 แผ่น DVD ไดร้ ับความนิยมมากกวา่ เทป วเี อชเอส
แตใ่ นขณะนั้นเคร่อื งเลน่ VHS ยงั คงมีใช้กนั อยู่นับล้านชน้ิ
เทปย-ู เมตกิ (U-matic) เบตา้ แมก็ ซ์ (Betamax) และวเี อชเอส (VHS) ตา่ งเปน็ ระบบแอนะลอ็ ก
โดยมเี ทปวเี อชเอสเปน็ เทปทมี่ คี ณุ ภาพตำ�่ สดุ ตอ่ มาในภายหลงั ไดม้ กี ารปรบั ปรงุ คณุ ภาพขนึ้ โดยเพมิ่ ระบบ
LP (long play) หรือ SLP (super long play) สว่ นเครอื่ งเลน่ และเคร่อื งบันทกึ เทปวเี อชเอส มีระบบ
hi-fi (high fidelity) ท่ใี ห้คณุ ภาพเสียงดเี ยีย่ ม
เทปซเู ปอรว์ เี อชเอส (Super VHS หรอื S-VHS) เปน็ ระบบเทปทใ่ี หค้ ณุ ภาพสงู กวา่ ระบบเทป
วเี อชเอส โดยมีการเพิ่มเสน้ กวาดสญั ญาณในแนวระนาบจากมาตรฐานเดมิ ของเทปวีเอชเอสทมี่ ี 240 เส้น
เปน็ 400 เส้น ใหค้ วามละเอยี ดของภาพ (resolution) และเพิม่ คา่ ความสวา่ งของภาพมากข้ึน
5. วิดีโอ 8 และ ไฮ 8 (Video 8 and Hi 8) ในชว่ งทศวรรษท่ี 1980 ไดม้ ีการนำ� เทปขนาด 8 มม.
(8 mm.) หรอื วิดีโอ 8 (Video 8) ออกมาใช้สูท่ ้องตลาด ซึ่งเปน็ เทปคาสเซ็ท (tape cassette) ท่ีมีขนาด
เลก็ สำ� หรบั กลอ้ ง “camcorder” มคี ณุ ภาพเทา่ กบั เทปเบตา้ แมก็ ซ์ (Betamax) และเทปวเี อชเอส (VHS)
จนกระทง่ั ปลายทศวรรษท่ี 1980 เทปไฮ 8 (Hi 8) หรือ “high band video 8” ถกู นำ� ออกมาสู่ทอ้ งตลาด
มีเส้นกวาดสัญญาณแนวระนาบถึง 400 เส้น ให้คุณภาพของสีดีเหมือนเดิม แต่เป็นระบบให้การบันทึก
เสยี งพากยท์ ีม่ ีคุณภาพค่อนข้างตำ�่
6. เทปเบตา้ แคม และเบตา้ แคม เอสพี (Betacam and Betacam SP) เทปเบตา้ แคม (Betacam)
เรมิ่ ใชใ้ นปี 1982 โดยบรษิ ทั โซนี่ เปน็ ผผู้ ลติ เปน็ การปฏวิ ตั ริ ปู แบบวดิ โี อคาสเซท็ (videocassette) สำ� หรบั
การท�ำงานภาคสนามในการถ่ายท�ำ โดยใช้เทปขนาด 1/2 น้ิว เป็นการบันทึกสัญญาณวิดีโอแอนะล็อก
ใชเ้ ทคนคิ การบนั ทกึ 2 ชอ่ งทางแยกกนั คอื ชอ่ งทางแรกเปน็ สญั ญาณความสวา่ ง สว่ นชอ่ งทางที่ 2 คอื สญั ญาณ
ของสีท่ใี หค้ วามแตกต่างกนั ซงึ่ ทั้งสองชอ่ งทางนจ้ี ะบันทึกไปพร้อมกันในเวลาเดียวกัน
เบตา้ แคม เอสพี (Betacam SP) ออกสู่ตลาดคร้ังแรกในปี 1986 มกี ารพัฒนาปรับปรุงเส้นกวาด
สัญญาณแนวระนาบเปน็ 380 เส้น และเพม่ิ เป็น 4 ชอ่ งทางเสียง (4 tracks) โดย 2 ช่องทางแรกเป็น
ระบบมาตรฐาน สว่ นอกี 2 ชอ่ งทาง เป็นระบบทีม่ คี ุณภาพสูง (high-quality FM tracks) ผสมอยใู่ น