Page 42 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 42
6-32 ความรูท้ างสงั คมศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีส�ำ หรับนักนเิ ทศศาสตร์
1) ตณั หา คอื ความอยาก ความเหน็ แก่ตวั ความอยากจะได้ อยากจะเอาเพือ่ ตัวเอง
2) มานะ คือ ความต้องการให้ตัวเดน่ อยากยง่ิ ใหญ่ ความส�ำคญั ตน หรอื ถือตนส�ำคญั
3) ทิฐิ คอื ความถือร้นั ในความเห็นของตน ยึดติดในความเห็น เอาความเห็นเปน็ จรงิ
ดังนนั้ แนวคดิ เศรษฐศาสตรเ์ ชงิ พทุ ธจงึ เนน้ ใหก้ ารเรยี นรทู้ ถี่ กู ตอ้ งถงึ เสรภี าพในการแสดงออก คือ
ต้องรจู้ ุดมุ่งหมายของการแสดงออกเป็นไปเพอ่ื ท่ีตอ้ งการแสวงหาความจรงิ ความถกู ต้อง อยา่ งมีเหตุมผี ล
จึงต้องรู้จักรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นด้วย เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นให้ไปสู่ความรู้จริง
ไดส้ ง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ งและบรรลเุ ปา้ หมายรว่ มกนั ดงั นน้ั ถา้ คนในสงั คมมกี ารแสดงออกอยา่ งเสรที ถี่ กู ตอ้ ง กจ็ ะเปน็
สังคมท่ีมีระเบียบวินัย คนในสังคมจึงจะต้องมีการฝึกฝนตนให้มีระเบียบวินัย อยู่ในกฎเกณฑ์กติกาซ่ึงจะ
เปน็ เครื่องควบคุมก�ำกับใหร้ ู้จักการยับย้งั ชง่ั ใจในขอบเขตของการแสดงออกทีพ่ อดี
นอกจากนส้ี งั คมทมี่ กี ารแสดงออกอยา่ งเสรที กุ คนจะตอ้ งมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ การกระทำ� ของตนเอง
ใหม้ ากดว้ ย เมอื่ มกี ารกระทำ� ทลี่ ะเมดิ ตอ่ ผอู้ นื่ หรอื ละเมดิ ตอ่ สงั คม องคก์ รธรุ กจิ ทป่ี ระกอบดว้ ยเจา้ ของกจิ การ
ผถู้ ือหนุ้ ประธานบริษัท คณะกรรมการบริษทั ผู้เปน็ ห้นุ ส่วน ผูบ้ รหิ าร ตลอดจนผ้ปู ฏบิ ตั ิงานภายในองคก์ ร
ธรุ กจิ ทกุ ระดบั ไดม้ คี วามสมั พนั ธท์ งั้ เรอ่ื งงานและเรอ่ื งสว่ นตวั ทม่ี คี วามเปน็ มติ ร มคี วามปรารถนาดตี อ่ กนั
ดังน้ันองค์กรธุรกิจจึงต้องมีการเสริมสร้างและพัฒนาทางด้านจริยธรรมองค์กรเพ่ือประโยชน์สุขของทุกคน
ทอ่ี ยรู่ ่วมกนั ดงั น้ี
1) มีการจัดท�ำข้อประพฤติปฏิบัติทางจริยธรรมของบุคลากรที่ด�ำรงต�ำแหน่งในแต่ละระดับ
ให้มคี วามเหมาะสม
2) กำ� หนดเปน็ นโยบายและระเบียบข้อบงั คบั ในการประพฤติปฏบิ ตั ิของบคุ ลากรทกุ คน
3) จดั ตง้ั คณะกรรมการในการกำ� กบั ดแู ล สง่ เสรมิ และควบคมุ การประพฤตปิ ฏบิ ตั ขิ องบคุ ลากร
ทกุ คนให้สอดคล้องกบั ขอ้ กำ� หนดทางจริยธรรมขององคก์ ร
4) จัดกิจกรรมท่ีส่งเสริมและพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมแก่บุคลากรภายในองค์กรอย่าง
สม�่ำเสมอและตอ่ เนอ่ื งทกุ ปี เช่น จัดอบรม สัมมนาใหค้ วามรู้ แลกเปล่ียนเรียนร้รู ะหว่างกนั ใชห้ ลักศาสนา
เป็นพื้นฐานและนำ� ทาง
5) มีการตรวจสอบความเหมาะสมของข้อประพฤติปฏิบัติเป็นระยะๆ ให้ทันสมัย ทันต่อ
สถานการณ์และความเปลีย่ นแปลงท่ีเกิดขึ้น โดยคำ� นึงถึงความถูกต้องดงี าม
6) สร้างบรรยากาศความมีจริยธรรมภายในองค์กร โดยผู้บริหารเป็นแกนน�ำหลักให้ความ
ส�ำคัญอยา่ งจรงิ จงั และด�ำรงตนเปน็ แบบอยา่ งที่ดีแกบ่ คุ ลากร
7) เช่ือมความสัมพันธ์กับองค์กรภายนอก โดยร่วมมือกันก�ำหนดและสร้างบรรยากาศการ
บริหารงานธุรกิจด้วยคุณธรรมจริยธรรม เช่น จัดประกวดองค์กรธุรกิจที่มีคุณธรรมจริยธรรมเพื่อกระตุ้น
และจูงใจให้นักธุรกิจ ผ้บู ริหารองค์กรธรุ กิจไดต้ ระหนักถึงการดำ� เนินธรุ กจิ อยา่ งมคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม
8) ฟื้นค่านยิ มดง้ั เดิมของคนไทย “เคารพและยกยอ่ งคนด”ี ลา้ งคา่ นยิ มปจั จบุ ัน “ยกย่อง
คนรวย คนมอี �ำนาจ” (พระพรหมคณุ าภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต), 2554)