Page 30 - การบริหารความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ
P. 30
11-20 การบริหารความม่ันคงปลอดภัยสารสนเทศ
(3) สามารถสกัดก้ันความร้อนจากแสงอาทิตย์ ท่ีตกกระทบกระจกสีได้มากกว่ากระจกใส
ปริมาณการดูดกลืนความร้อนข้ึนอยู่กับส่วนผสมของเน้ือกระจก ซึ่งสามารถผลิตให้มีการสกัดก้ันรังสีอาทิตย์ได้หลาย
ระดับ แต่ผิวกระจกจะร้อนข้ึนเมื่อมีการสกัดกั้นรังสีมาก
(4) ชว่ ยลดความจา้ ของแสงทส่ี ง่ ผา่ นกระจกสที ำ� ใหไ้ ดแ้ สงทน่ี มุ่ นวลและเกดิ ความสบายตา
ในการมอง
ข้อควรพจิ ารณาในการใช้งาน
(1) ไม่ควรให้ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศเป่ากระทบผิวหน้าของกระจกโดยตรง เพราะ
จะท�ำให้กระจกสูญเสียพลังงานมาก
(2) ไม่ควรติดผ้าม่านท่ีมีความหนาทึบ หรือวางตู้เหล็ก หรือส่ิงของอ่ืน ๆ ชิดกับกระจก
หรือติดต้ังปิดบังกระจกโดยไม่มีการถ่ายเทความร้อน เพราะอาจท�ำให้กระจกสะสมความร้อนเพ่ิมข้ึน และเป็นสาเหตุ
ให้กระจกสีแตกร้าวได้ง่าย
(3) ไม่ควรทาสีหรือติดแผ่นกระดาษใด ๆ ลงบนผิวกระจก
(4) ควรจะต้องมีการตัดหรือฝนขอบกระจกให้เรียบ เพื่อท�ำให้ขอบกระจกมีความทนทาน
ต่อการแตกร้าวจากแรงดึงและแรงเค้นที่ผิวและขอบของกระจก
3.3.2 กระจกอบความรอ้ น (heat treated glass) กระจกอบความร้อนหรือกระจกสีท่ีน�ำไปผ่านกระบวน-
การปรับแต่งคุณภาพของเน้ือกระจก เพ่ือให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น หรือรับแรงกระท�ำจากแรงภายนอกได้มากข้ึน
แบ่งออกเป็น 2 ชนิดดังน้ี
1) กระจกนิรภัยเท็มเปอร์ (tempered glass) เป็นการน�ำกระจกไปผ่านกระบวนการเท็มเปอริง
(tempering) เพื่อเพิ่มความแข็งแรง โดยใช้หลักการเดียวกับการท�ำคอนกรีตอัดแรง คือ สร้างให้ชั้นของแรงอัดข้ึนที่
ผิวแก้วเพื่อต้านแรงจากภายนอก วิธีการน้ีท�ำได้โดยการให้ความร้อนกับกระจกท่ีอุณหภูมิสูงกว่าจุดอ่อนตัวของแก้ว
เล็กน้อยท่ีประมาณ 650-700 องศาเซลเซียส และท�ำให้ผิวกระจกเกิดความเย็นตัวอย่างรวดเร็ว โดยใช้ลมเย็นเป่า
ผลของความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างผิวนอกกับส่วนกลางของแผ่นกระจกจะท�ำให้เกิดช้ันของแรงอัดข้ึนที่ผิวของ
กระจกทั้ง 2 ด้าน โดยจะประกบช้ันส่วนกลางเหมือนลักษณะแซนด์วิช และช้ันที่ผิวน้ีจะต้านแรงจากภายนอกท�ำให้
กระจกท่ีผ่านกระบวนการเท็มเปอริงแล้วมีความแข็งแรงขึ้นประมาณ 4 เท่า
คุณสมบตั ิเฉพาะของกระจกประเภทนี้ คือ
- คา่ ความแขง็ แรงตอ่ แรงดงึ และแรงทที่ ำ� ใหห้ กั งอ (bending strength) เมอ่ื เปรยี บเทยี บ
กระจกธรรมดากับกระจกนิรภัยเท็มเปอร์ท่ีมีความยาว 5 มิลลิเมตร กระจกธรรมดามีค่าความแข็งแรงต่อแรงดึงและ
แรงทท่ี ำ� ใหก้ ระจกหกั งอ 500-650 กโิ ลกรมั /ตารางเซนตเิ มตร ในขณะทกี่ ระจกนริ ภยั เทม็ เปอรม์ คี า่ สงู ถงึ 1500 กโิ ลกรมั /
ตารางเซนติเมตร
- การต้านทานนํ้าหนัก (loading resistance) คือ ความต้านทานต่อแรงดันและ
แรงกระแทกโดยแบ่งออกเป็น
• การตา้ นทานนา้ํ หนกั หรอื สถติ ิ (static load resistance) คอื แรงทม่ี ากระทบกระจก
กระจกนิรภัยเทม็ เปอรส์ ามารถทนต่อแรงกระทบไดม้ ากกวา่ กระจกธรรมดาทมี่ ีความหนาเดยี วกนั ประมาณ 3-5 เท่า
• การต้านทานนํ้าหนักกระแทก (impact load resistance) คือ ความทนทานของ
กระจกตอ่ แรงกระแทก โดยทว่ั ไปกระจกนริ ภยั เทม็ เปอรส์ ามารถรบั แรงกระแทกไดด้ กี วา่ กระจกธรรมดาประมาณ 4 เทา่
- ความปลอดภัย คือ การลดอันตรายที่จะเกิดจากการโดนกระจกบาด เพราะการแตก
ของกระจกนิรภัย จะแตกออกเป็นเม็ดเล็ก ๆ และมีความคมน้อย