Page 35 - เทคโนโลยีกระบวนการพิมพ์
P. 35

เทคโนโลยีการพิมพ์ออฟเซตไม่ใช้นํ้า 4-27

            หมึกพิมพ์ออฟเซตแห้งเป็นหมึกพิมพ์ที่มีความสามารถในการระเหยตํ่า (low volatility) เพื่อให้หมึก
พิมพ์ไม่แห้งตัวเร็วเกินไปบนชุดลูกกลิ้งหมึกหรือแม่พิมพ์ในเครื่องพิมพ์ แต่จะแห้งตัวเมื่อถ่ายโอนไปบนวัสดุใช้พิมพ์
ในการพมิ พง์ านพมิ พห์ ลายสี ควรมกี ารควบคมุ คา่ ความหนดื และความเหนยี วใหเ้ หมาะสมกบั ลำ�ดบั การพมิ พส์ ดี ว้ ย โดย
วดั ค่าความหนดื ด้วยเครือ่ งวัดความหนืด (rheometer) ปกตหิ มกึ พิมพค์ วรมีความหนืดประมาณ 15-25 พาสคลั หมึก
พิมพ์ยูวีควรมีความหนืดประมาณ 25-35 พาสคัล และวัดค่าความเหนียวด้วยเครื่องวัดความเหนียว (tackmeter) ให้
มีค่าที่เหมาะสม ซึ่งค่าความหนืดและความเหนียวของหมึกพิมพ์อาจเปลี่ยนแปลงไปตามอุณหภูมิของเครื่องพิมพ์ เมื่อ
อณุ หภมู ใิ นเครือ่ งพมิ พส์ งู ขึน้ ภายหลงั จากท�ำ การพมิ พไ์ ประยะหนึง่ ท�ำ ใหห้ มกึ พมิ พม์ คี วามหนดื และความเหนยี วลดลง
มีผลต่อการถ่ายโอนหมึกพิมพ์ไปยังวัสดุใช้พิมพ์ไม่คงที่ได้

            ตามทีไ่ ดท้ ราบมาแล้ววา่ การพมิ พ์ออฟเซตแหง้ สว่ นใหญ่ใช้โมยางร่วมโมเดยี วรบั ถ่ายโอนหมึกพิมพท์ ุก
สีจากแม่พิมพ์ก่อนถ่ายโอนหมึกพิมพ์ทุกสีบนวัสดุใช้พิมพ์ในคราวเดียว (single pass) หมึกพิมพ์แต่ละสีจึงซ้อนทับ
กันบนผ้ายางแบบเปียกทับเปียก ความเหนียวของหมึกพิมพ์และลำ�ดับสีที่พิมพ์จึงมีความสำ�คัญต่อการถ่ายโอนหมึก
พิมพ์บนผ้ายางอย่างมาก โดยหมึกพิมพ์สีแรกควรมีความเหนียวสูงสุด และหมึกพิมพ์สีถัดไปควรมีความเหนียวตํ่า
กว่าหมึกพิมพ์สีที่พิมพ์ก่อนหน้าเล็กน้อย ซึ่งอาจท�ำ ได้โดยการเติมตัวท�ำ ละลายลงไปในหมึกพิมพ์ประมาณร้อยละ 2-5
ข้อแนะนำ�ในการพิมพ์จะให้พิมพ์หมึกพิมพ์สีอ่อนสุดเป็นสีแรก และหมึกพิมพ์สีเข้มสุดเป็นสีสุดท้าย เพื่อลดปริมาณ
หมึกพิมพ์ปนเปื้อนของสีแรกไปยังสีถัดไปที่เกิดจากปัญหาการจับหมึก (back ink trap)

            ในการพิมพ์ภาพสี่สี มักลำ�ดับการพิมพ์สีดังนี้
                สีเหลือง 	 พิมพ์เป็นสีที่ 1
                สีแดง 	 พิมพ์เป็นสีที่ 2
                สีนํ้าเงิน 	 พิมพ์เป็นสีที่ 3
                สีดำ� 		 พิมพ์เป็นสีที่ 4

            ดงั นั้น ความเหนยี วหมึกพมิ พ์ควรเรยี งล�ำ ดบั จากมากไปนอ้ ย ดงั นี้ สีเหลอื ง > สแี ดง > สีนํ้าเงิน > สีด�ำ
            2.1.3 	การควบคุมคณุ ภาพแม่พิมพ์ เป็นการควบคุมสภาพของแม่พิมพ์ให้ถูกต้อง บริเวณภาพบนแม่
พิมพ์ต้องนูนจากบริเวณไร้ภาพในระดับที่ให้ลูกกล้ิงหมึกคลึงแม่พิมพ์เฉพาะบริเวณภาพเท่านั้น ตามลักษณะของงาน
พิมพ์ว่าเป็นพื้นทึบ หรือลายเส้น หรือสกรีน
            2.1.4 	การควบคมุ คณุ ภาพผ้ายาง เป็นการควบคุมความแข็ง และผิวของยาง ผิวของผ้ายางต้องสะอาด
ปราศจากรอยสกปรก รอยเปื้อน ฝุ่นผง ปุ่มนูน เพราะอาจก่อปัญหาการรับและถ่ายโอนหมึกพิมพ์ได้ไม่สมบูรณ์ และ
อาจท�ำให้แม่พิมพ์เสียหายได้ วัสดุที่ใช้เป็นผ้ายางควรท�ำจากวัสดุท่ีมีความต้านทานต่อตัวท�ำละลายในหมึกพิมพ์ เช่น
ยางบิวทิว (butyl) หรือเอทิลีนโพรพิลีนไดอีนมอนอเมอร์ (ethylenepropylenediene monomer: EPDM) เพื่อไม่
ให้เกิดปัญหาการบวมพอง (swelling) ความเหนียวเหนอะ (stickiness) หรือละลายตัว (dissolve) เมื่อสัมผัส
หมึกพิมพ์ ในทางปฏิบัติ ก่อนน�ำผ้ายางผืนใหม่มาใช้งานให้ท�ำความสะอาดผ้ายางด้วยส่วนผสมทินเนอร์ในหมึกพิมพ์
            2.1.5 	การควบคมุ คณุ ภาพวสั ดใุ ชพ้ มิ พ์ เป็นการตรวจสอบผิวของวัสดุใช้พิมพ์ว่ามีพลังงานผิวเหมาะสม
กับการพมิ พ์และมีการเตรยี มผวิ ก่อนการพิมพม์ าแล้ว วธิ ีทดสอบโดยการใชป้ ากกาทดสอบพลงั งานผวิ หรอื การทาด้วย
ของเหลวท่ีมีค่าระดับแรงตึงผิว (dyne level) ต่างๆ ถ้าของเหลวที่ทาน้ันแผ่ไม่ทั่วท้ังผิวหน้าของวัสดุใช้พิมพ์ แสดงว่า
ผิวของวัสดุใช้พิมพ์มีค่าพลังงานผิวเท่ากับหรือมากกว่าแรงตึงผิวของของเหลวท่ีใช้ทดสอบ แต่ถ้าของเหลวกลับรวม
ตัวเป็นหยดของเหลว แสดงว่าผิวของวัสดุใช้พิมพ์นั้นมีค่าพลังงานผิวต่ํากว่าแรงตึงผิวของของเหลวที่ใช้ทดสอบ แสดง
ว่าวัสดุใช้พิมพ์น้ันไม่เหมาะสมที่จะน�ำไปใช้พิมพ์ อาจเกิดปัญหาหมึกพิมพ์ไม่ยึดติดบนวัสดุใช้พิมพ์ วัสดุใช้พิมพ์หลัง
การปรับสภาพผิวก่อนพิมพ์ควรมีพลังงานผิวอย่างน้อย 42-44 มิลลินิวตันต่อเมตร (milli Newtons per metre)
หรือ ดายน์/เซนติเมตร (dynes/centimeter)
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40