Page 47 - เทคโนโลยีกระบวนการพิมพ์
P. 47

เทคโนโลยีการพิมพ์ออฟเซตไม่ใช้นํ้า 4-39

เร่อื งที่ 4.2.2
ความเปน็ มาของการพมิ พ์ออฟเซตไร้นาํ้

       จากที่ได้ทราบมาแล้วว่าการพิมพ์ลิโทกราฟีเป็นระบบการพิมพ์ที่พัฒนาขึ้นโดยอลัวส์ เซเนเฟลเดอร์ (Alois
Senefelder) ใน ค.ศ. 1798 ทีเ่ มอื งมิวนคิ ซึ่งหลกั การพิมพ์ลโิ ทกราฟีในช่วงแรกตอ้ งใชน้ ํ้าในการพิมพ์ โดยให้ความชื้น
แก่แท่นหินบริเวณไร้ภาพก่อนลงหมึกพิมพ์บนบริเวณภาพที่มีลงไขไว้ก่อนแล้ว หลังจากนั้นการพิมพ์ออฟเซตไร้นํ้าได้
พัฒนาขึ้นต่อจากการพิมพ์ออฟเซตลิโทกราฟี โดยมีความเป็นมาในด้านต่างๆ ดังนี้

1. 	พฒั นาการของแมพ่ ิมพ์ออฟเซตไรน้ า้ํ

       หลงั จากทีม่ กี ารเครือ่ งพมิ พอ์ อฟเซตเครือ่ งแรกโดยไอรา วอรช์ งิ ตนั รเู บล ตอ่ มาแคสพาร์ เฮอรม์ านน์ (Casper
Hermann) ชาวเยอรมัน ผู้ร่วมคิดค้นวิธีการพิมพ์ออฟเซตซึ่งได้ดัดแปลงเครื่องพิมพ์เลตเตอร์เพรสส์ป้อนม้วนเป็น
เครื่องพิมพ์ออฟเซตให้แก่บริษัทผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยใช้แม่พิมพ์สังกะสีและถ่ายทอดบน
ผ้ายาง และเขาได้นำ�เทคโนโลยีการพิมพ์ออฟเซตเข้ามาแพร่หลายในประเทศเยอรมันในปีต่อมา

       ในช่วง ค.ศ. 1926-1930 ได้มีการทดลองวิธีการพิมพ์โดยใช้แม่พิมพ์พื้นราบบนวัสดุใช้พิมพ์ ที่ไม่ใช้นํ้าใน
เมืองเวียนนา (Vienna) และเมืองไลป์ซิก (Leipzig) จนกระทั่ง ค.ศ. 1932 แคสพาร์ เฮอร์มานน์ ขณะที่ทำ�งานให้
โรงงานผลิตเครื่องพิมพ์แห่งหนึ่ง ได้ทำ�การทดลองวิธีการพิมพ์โดยไม่ใช้นํ้ายาฟาวน์เทน โดยใช้แม่พิมพ์ที่เคลือบผิว
ด้วยซิลิโคนจากบริษัท Eggen และใช้หมึกพิมพ์ที่มีการพัฒนาสูตรผสมเฉพาะจากบริษัท Kast & Ehinger เพื่อพิมพ์
ภาพสี่สี และภาพสีเดียวบนเครื่องพิมพ์หนังสือพิมพ์ เขาได้นำ�เสนอผลงานคิดค้นในประเทศเยอรมัน และประเทศ
สหรัฐอเมริกา แต่วิธีการพิมพ์ที่คิดค้นขึ้นนี้สูตรหมึกพิมพ์ที่พัฒนาขึ้นมีความซับซ้อน และเป็นไปไม่ได้ในการผลิตเพื่อ
ใช้งานในอุตสาหกรรม จึงไม่ประสบความสำ�เร็จ แคสพาร์ได้พยายามจดสิทธิบัตรผลงานวิธีการพิมพ์นี้หลายฉบับ แต่
ได้รับการปฏิเสธ การใช้ซิลิโคนเคลือบบนแม่พิมพ์เพื่อผลักดันหมึกพิมพ์นี้ บางครั้งจึงเรียกว่า siligraphy

       ค.ศ. 1967 บริษัท 3M ได้คิดค้นแม่พิมพ์ออฟเซตไร้นํ้า และวิธีการพิมพ์ออฟเซตไร้นํ้า ภายใต้ชื่อทางการ
ค้าว่า Driography และนำ�เสนอเทคโนโลยีการพิมพ์ driography นี้เป็นครั้งแรกในงานแสดงการพิมพ์ DRUPA ณ
ประเทศเยอรมนี ภายใต้สโลแกน “การพิมพ์แบบแห้ง” และได้จดสิทธิบัตรแม่พิมพ์ออฟเซตไร้นํ้าใน 3 ปีต่อมา แต่ยัง
มีปัญหาเกี่ยวกับการพัฒนาหมึกพิมพ์ที่เหมาะสม และอายุใช้งานของแม่พิมพ์ เนื่องจากพบว่าผิวซิลิโคนที่เคลือบบน
แม่พิมพ์มีสมบัติไม่คงที่ และเป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย โดยเฉพาะแม่พิมพ์ขนาดใหญ่ จึงใช้ได้กับเครื่องพิมพ์ขนาดเล็ก
เท่านั้น อีกทั้งยังมีราคาแม่พิมพ์สูงมาก ทำ�ให้ไม่ประสบความสำ�เร็จเท่าที่ควร บริษัท 3M จึงยุติการวิจัยและพัฒนาใน
การพิมพ์ออฟเซตในเวลาต่อมา

       ต่อมา ค.ศ. 1972 บริษัท TORAY ซึ่งผลิตพลาสติก ฟิล์ม และเคมีภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ได้ซื้อ
สิทธิบัตรแม่พิมพ์ Driography จากบริษัท 3M และด้วยประสบการณ์ที่ผลิตวัสดุสังเคราะห์ และพอลิเมอร์มาก่อน
จึงได้วิจัยและพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงแม่พิมพ์ของ 3M และได้จดสิทธิบัตรการพิมพ์ออฟเซตแห้งใน ค.ศ. 1975
ต่อมา ค.ศ. 1977 บริษัท TORAY ได้นำ�เสนอเทคโนโลยีแม่พิมพ์ออฟเซตไร้นํ้าเป็นครั้งแรก ในงานแสดงการพิมพ์
DRUPA 1977 ใน ค.ศ. 1978 ได้เริ่มผลิตแม่พิมพ์ออฟเซตไร้นํ้าจำ�หน่ายในอุตสาหกรรมการพิมพ์ประเทศญี่ปุ่น โดย
แม่พิมพ์ที่ผลิตครั้งแรกเป็นแม่พิมพ์พอซิทิฟรุ่น TAP-type positive plate เนื่องจากขณะนั้นอุตสาหกรรมการพิมพ์
ญี่ปุ่นใช้แม่พิมพ์พอซิทิฟเป็นส่วนใหญ่ ถึงร้อยละ 95
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52