Page 18 - ประวัติศาสตร์ไทย
P. 18
2-8 ประวตั ศิ าสตรไ์ ทย
ต�ำบลไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี โครงกระดูกมนุษย์ท่ีพบถูกฝังอยู่บริเวณใต้เพิงผา ในสภาพนอนหงาย
ชนั เขา่ หนนุ กอ้ นหนิ หวั สงู เลก็ นอ้ ย หนั หนา้ ไปทางขวามอื ศรี ษะหนั สทู่ ศิ ใต้ มอื ขวาอยใู่ ตค้ าง แขนซา้ ยวาง
พาดอก ทบ่ี รเิ วณสว่ นบนของรา่ งมหี นิ ควอทไซทแ์ ทง่ ใหญว่ างทบั อยู่ และมแี รส่ แี ดงโปรยอยเู่ หนอื ศรี ษะและ
บรเิ วณทรวงอก5 นอกจากนภ้ี ายในโลงศพยงั พบเครอ่ื งเซน่ ทเ่ี ปน็ สตั วบ์ กและสตั วน์ า้ํ เปน็ การแสดงใหเ้ หน็ วา่
ในสมยั นไ้ี ดม้ กี ารประกอบพธิ กี รรมบางอยา่ งเกย่ี วกบั การฝงั ศพ โดยลกั ษณะของโครงกระดกู มนษุ ยท์ พ่ี บมี
ลกั ษณะบางสว่ นคลา้ ยคลงึ กบั โครงกระดกู ของมนษุ ยส์ มยั หนิ กลางทพี่ บบรเิ วณกวั เกปา (Gua Kapah) และ
ถา้ํ ฟลอเรส (Flores Cave) ในประเทศมาเลเซยี ซึ่งสนั นิษฐานว่ามนุษยพ์ วกน้เี ป็นพวกโปรเตมาเลย6์
หลักฐานการด�ำรงชีวิตของมนุษย์ยุคนี้ในประเทศไทย พบเคร่ืองมือเคร่ืองใช้ท่ีเป็นเคร่ืองมือหิน
กะเทาะหนา้ เดยี ว โดยพบท่บี รเิ วณถํา้ ระหวา่ งสถานีบ้านเก่ากับสถานีทา่ กเิ ลน อ�ำเภอเมือง และบรเิ วณถํ้า
ใกลส้ ถานวี ังโพธิ์ อ�ำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
ขณะเดียวกันมนุษย์ยุคหินกลางเร่ิมมีพัฒนาการขึ้นอีกระดับหน่ึง คือ เร่ิมรู้จักการท�ำเคร่ืองปั้น
ดินเผาขึ้นใช้เป็นครั้งแรก โดยขุดพบเคร่ืองปั้นดินเผาจ�ำพวกหม้อ จาน ชาม หม้อนํ้า ท่ีมีผิวเรียบขัดมัน
และบางช้นิ มลี วดลายที่ใช้เชอื กทาบ ทบี่ รเิ วณถาํ้ ผแี มน อ�ำเภอเมือง จังหวดั แมฮ่ อ่ งสอน นอกจากน้ียงั คน้
พบซากพืชหลายชนิด ซึ่งบางชนิดคาดว่าน่าจะเกิดจากการเพาะปลูกของมนุษย์ในยุคนี้ เช่น หมาก
พริกไทย แตงกวา ฯลฯ และพบซากสัตว์หลายชนิดท้งั ขนาดใหญแ่ ละขนาดกลาง เชน่ ววั ปา่ หมปู ่า และ
กวาง ฯลฯ และสตั วน์ า้ํ เช่น ปู ปลา เตา่ ในหลมุ ศพ ซึง่ สันนิษฐานวา่ เปน็ การบชู ายญั ในพิธกี รรมฝงั ศพ
ของมนษุ ย์ในยุคนัน้
ยุคหินใหม่
ยคุ หนิ ใหมส่ นั นษิ ฐานวา่ มอี ายปุ ระมาณ 5,000 ถงึ 4,000 ปลี ว่ งมาแลว้ มนษุ ยย์ คุ นเี้ รมิ่ เปลยี่ นแปลง
วิธกี ารด�ำเนินชวี ิตจากทเ่ี คยมีชวี ิตเร่รอ่ นไปตามแหลง่ อาหาร เรม่ิ ลงหลักปักฐานอยู่กบั ทีม่ ากข้ึน เนอ่ื งจาก
เริ่มมีการเพาะปลกู และเลย้ี งสตั วท์ ำ� ใหม้ นุษยม์ แี หล่งอาหารบริโภคท่ีแน่นอน ดังนัน้ มนุษย์ยุคน้ีจึงเรมิ่ มีการ
รวมตวั และตง้ั หลกั แหลง่ เปน็ กลมุ่ กระจายอยทู่ ว่ั ไป การทม่ี นษุ ยม์ ถี น่ิ ทอี่ ยแู่ นน่ อนเปน็ ปจั จยั สำ� คญั ประการหนง่ึ
ทท่ี ำ� ใหม้ นุษย์ในยคุ น้ีเพมิ่ จำ� นวนมากข้นึ
จากการสำ� รวจของนกั โบราณคดี ไดข้ ดุ พบโครงกระดกู มนษุ ยซ์ งึ่ บางศพถกู บรรจอุ ยใู่ นโลงศพทท่ี ำ�
จากไมท้ ง้ั ตน้ ผา่ 2 ซกี แลว้ ขดุ เอาเนอ้ื ไมอ้ อก ภายในโลงศพยงั บรรจเุ ครอ่ื งประดบั เชน่ ลกู ปดั กำ� ไล เครอ่ื งมอื
เครอื่ งใชท้ ที่ ำ� จากกระดกู สตั วแ์ ละเปลอื กหอย บางศพถกู ฝงั ในหลมุ โดยไมใ่ สโ่ ลง มนษุ ยท์ พ่ี บนม้ี ขี นาดความ
สูงประมาณ 150–170 เซนติเมตร นอกจากน้ียังขุดพบเคร่ืองมือเคร่ืองใช้ที่ท�ำด้วยหิน พบเครื่อง
ปั้นดินเผา เคร่ืองประดับ กระดูกสัตว์ และเปลือกหอย โดยสามารถค้นพบบริเวณตลอดสองฝั่งแควน้อย
และแควใหญ่ บรเิ วณถาํ้ เสือ บ้านเก่า จังหวดั กาญจนบุรี และยงั ขุดพบเคร่อื งมือหนิ รูปหัวขวาน ทเ่ี รยี กว่า
5 ชิน อยดู่ ี. (2529). สมัยกอ่ นประวตั ศิ าสตร์ในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: กรมศลิ ปากร. น. 29.
6 โปรเตมาเลย์ หรือมลายูโปรโต (Melayu Proto) ซึ่งเป็นกลุ่มชนชาวมลายูดั้งเดิม โปรดดูรายละเอียดจาก พิเศษ
เจียจันทร์พงษ.์ เรือ่ งเดียวกัน. น. 151.