Page 38 - ประวัติศาสตร์ไทย
P. 38
2-28 ประวัตศิ าสตร์ไทย
สว่ นกลมุ่ ชนทเี่ รยี กวา่ คนไทยในปจั จบุ นั นน้ั สดุ แสงวเิ ชยี ร กลา่ ววา่ จากหลกั ฐานการคน้ พบโครง
กระดูกของมนุษย์ในบริเวณบ้านเก่า จังหวัดกาญจนบุรี ในสมัยหินใหม่กับมนุษย์ในปัจจุบันไม่มีลักษณะ
แตกต่างกันอย่างชัดเจนจนพอจะแบ่งได้ว่าเป็นคนละเช้ือชาติ จึงน่าจะเช่ือได้ว่าโครงกระดูกของมนุษย์ใน
สมยั โบราณทข่ี ดุ พบอาจเปน็ บรรพบรุ ษุ ของคนไทยทอี่ าศยั อยใู่ นปจั จบุ นั 33 ดงั นน้ั ถา้ พจิ ารณาจากหลกั ฐาน
การคน้ พบโครงกระดกู มนษุ ย์ และหลกั ฐานการดำ� รงอยขู่ องมนษุ ยท์ มี่ มี าอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ทำ� ใหส้ นั นษิ ฐานไดว้ า่
ดนิ แดนประเทศไทยในปจั จบุ ันมีผคู้ นอาศยั อยู่ตัง้ แตส่ มัยหินเกา่ หนิ กลาง หินใหม่ ยคุ โลหะ จนเข้าสู่สมยั
ประวตั ิศาสตร์ และคนกลุ่มนก้ี ็นา่ จะเป็นบรรพบุรษุ ของคนไทยในปัจจบุ ันด้วยเชน่ กัน
คนไทยในปัจจุบันถูกจัดอยู่ในกลุ่มเชื้อชาติมองโกลอยด์หรือผิวเหลือง ซึ่งกลุ่มมองโกลอยด์แบ่ง
ออกเปน็ 5 กลมุ่ ตามถน่ิ ทอี่ ยอู่ าศยั ไดแ้ ก่ 1. กลมุ่ จนี เหนอื อาศยั อยใู่ นภาคเหนอื และภาคกลางของประเทศจนี
2. กลุ่มมองโกลอยด์ อาศยั อยใู่ นไซบีเรยี มองโกเลยี เกาหลี และญี่ป่นุ 3. กลุ่มเอเชยี อาคเนย์ อาศยั อยู่
บริเวณภาคใต้ของจีน ไทย เวียดนาม พม่า และอินโดนีเซีย 4. กลุ่มธิเบต เป็นพวกธิเบต และ
5. กลมุ่ อินเดียน เป็นพวกคนพ้นื เมอื งในทวีปอเมรกิ าตอนเหนือ ใตแ้ ละกลาง34 ส่วนคนไทยจดั อยูใ่ นกลมุ่
ท่ี 3 เอเชียอาคเนย์ ซ่งึ เป็นกลมุ่ ที่อาศัยอย่บู รเิ วณภาคใตข้ องจีน ไทย เวียดนาม พมา่ และอนิ โดนเี ซีย35
นอกจากนนี้ กั มานษุ ยวทิ ยายงั ไดจ้ ดั ประเภทของมนษุ ยส์ มยั โบราณรนุ่ แรกๆ ของไทยวา่ อยใู่ นตระกลู
ออสโตเนเซียน ซ่ึงตระกูลน้ีเป็นกลุ่มที่อพยพเข้ามาในประเทศไทยเม่ือหลายพันปีท่ีแล้ว รวมทั้งเป็น
บรรพบุรุษของชนชาติในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตป้ จั จุบนั 36 ตอ่ มามนุษย์ในตระกูลมอญและเขมรได้อพยพ
เข้ามาจากจีนหรืออินเดียเข้ามาอยู่ในดินแดนประเทศไทย ก่อนที่กลุ่มไทยจะอพยพเข้ามาแย่งชิงดินแดน
จากพวกละว้า จากน้ันกล่มุ น้ีจึงได้มีการต้ังหลักแหล่งอยกู่ นั เปน็ เมอื ง ชาวละว้าเปน็ ชาวพน้ื เมอื งเดมิ ทีเ่ มือ่
โดนรกุ รานกก็ ระจายไปอยตู่ ามปา่ ตามเขา หรอื ผสมผสานกบั กลมุ่ ชนทรี่ กุ รานเขา้ มาจนกลายเปน็ ชนกลมุ่ ใหม่
ในสังคม
ดังน้ันจะเห็นได้ว่ากลุ่มชนพื้นเมืองด้ังเดิมในดินแดนประเทศไทยจึงมีอยู่อย่างหลากหลายตาม
หลกั ฐานและแนวคดิ ของนกั วชิ าการทน่ี ำ� เสนอ จงึ อาจสนั นษิ ฐานไดว้ า่ กลมุ่ ชนดงั กลา่ วอาจเปน็ กลมุ่ ชนดงั้ เดมิ
ของประเทศไทยที่อาศัยอยใู นบรเิ วณน้ีมากอ่ นแล้วได้มีการอพยพเคลอ่ื นยา้ ยไปมาตามสถานทตี่ า่ งๆ และ
ในทสี่ ดุ กไ็ ด้มีการผสมผสานจนเป็นคนไทยในปจั จบุ ัน
กลุ่มชาติพันธุ์
กลุ่มชาตพิ ันธ์หุ รอื กลุม่ วฒั นธรรม คอื กลมุ่ คนทีส่ บื ทอดมาจากบรรพบรุ ุษเดยี วกัน บรรพบรุ ษุ ใน
ทีน่ ้ีหมายถงึ บรรพบุรุษทางสายเลอื ด ซ่ึงมลี กั ษณะทางชวี ภาพและรปู พรรณ (เชอื้ ชาต)ิ เหมือนกัน รวมทงั้
บรรพบรุ ุษทางวัฒนธรรมด้วย ผู้ท่ีอยใู่ นกลมุ่ ชาติพนั ธเ์ุ ดียวกันจะมคี วามร้สู ึกผูกพนั ทางสายเลือด และทาง
33 สุด แสงวเิ ชยี ร. (2526). น. 21-23 อา้ งใน สมุ ติ ร ปติ ิพัฒน.์ เร่อื งเดียวกัน. น. 11-12.
34 สมุ ิตร ปิติพฒั น์. เรื่องเดยี วกัน. น. 7-8.
35 เรื่องเดยี วกัน. น. 7.
36 วัลลภา รงุ่ ศิริแสงรัตน์. เร่อื งเดียวกัน. น. 5.