Page 76 - สังคมมนุษย์
P. 76
3-66 สังคมมนุษย์
ชนช้ันของบุคคลท�ำให้เกิดความแตกต่างกันในแบบแผนแห่งชีวิตและลักษณะอื่นๆ เช่น รสนิยม
บคุ ลกิ ลกั ษณะ ทศั นคตติ อ่ ชวี ติ ฯลฯ ความแตกตา่ งเหลา่ นมี้ ผี ลกระทบตอ่ ชวี ติ ของบคุ คลสว่ นใหญใ่ นสงั คม
และกลายเป็นปัญหาสังคมท่ีส�ำคัญประการหน่ึงของสังคมไทยในปัจจุบัน คือช่องว่างระหว่างชนชั้นใน
สังคมไทยระหว่างชนชั้นสูง (คนรวย) และชนชั้นล่างหรือผู้ใช้แรงงาน (คนจน) กว้างมากผลก็คือเกิด
ความไมเ่ ทา่ เทยี มกนั ในชวี ติ ความเปน็ อยคู่ นทอี่ ยใู่ นชน้ั ทางสงั คมทส่ี งู กวา่ ยอ่ มมโี อกาสทจ่ี ะเลอื กและรบั ผล
ประโยชนท์ างสงั คม เศรษฐกจิ และการเมอื ง ไดม้ ากกวา่ คนทอ่ี ยใู่ นชนชนั้ ตา่ํ กอ่ ใหเ้ กดิ ความแคลงใจ ความ
ขมขืน่ ความขัดแยง้ หรือความรสู้ ึกไม่เป็นธรรมในสงั คมจึงเปน็ สงิ่ ท่เี กิดข้ึนในสังคมไทย
ปญั หาความขดั แยง้ ทางชนชน้ั ในสงั คมไทยเรม่ิ มปี ญั หามากขนึ้ จนถงึ ขน้ั เกดิ วกิ ฤตการณท์ างสงั คม
อันเนื่องมาจากปัญหาทางการเมืองนับต้ังแต่ปี พ.ศ. 2549-2557 โดยมีการน�ำเอาแนวความคิดความ
ขดั แยง้ ทางชนชนั้ ในสงั คมระหวา่ งชนชนั้ สงู หรอื เจา้ ศกั ดนิ า หรอื อำ� มาตยก์ บั ชนชนั้ ลา่ งหรอื ผใู้ ชแ้ รงงานหรอื
ไพร่ (ตามวาทกรรมคำ� ว่าไพร่ของนักการเมืองท่ีหมายถึงคนชน้ั ล่างหรอื ผ้ใู ช้แรงงาน หรือคนจน) เกดิ การ
แตกแยกทางสังคมเป็นสองฝักสองฝ่ายและมีการต่อสู้กันทางระหว่างสองชนช้ันโดยเป็นความเชื่อท่ีถูก
สร้างขึ้นและถูกขยายให้เป็นจริงด้วยการใช้เครื่องมือทางสื่อทั้งในระบบและนอกระบบผลที่ตามมาคือ
ปรากฏการณ์การแยกค่าย แยกฝ่าย แยกสี และตามมาด้วยวิกฤตสังคมเกิดสงครามการเมืองและวิกฤต
ทางการเมอื งจนไม่สามารถหาทางแก้ไขได้ และน�ำไปสู่การปฏวิ ัติและรฐั ประหารตามมาในทส่ี ุด
สว่ นแนวโนม้ การจดั ชว่ งชนั้ ในสงั คมไทยในอนาคตคาดวา่ จะมแี นวโนม้ ไปในทางทด่ี ขี น้ึ โดยสามารถ
ลดการแบง่ ชนชน้ั ลงอยา่ งมากแมว้ า่ การจดั ชว่ งชนั้ ทางสงั คมยงั คงเปน็ ชนชนั้ สงู ชนชนั้ กลาง และชนชน้ั ลา่ ง
แต่มีการลดช่องว่างระหว่างชนชั้นโดยการลดช่องว่างระหว่างชนชั้นสูงและชนชั้นล่างให้ลดลงเพราะการ
เลื่อนชั้นทางสังคมเป็นไปได้ง่ายข้ึน ท�ำให้ชนช้ันสูงและชนชั้นกลางมีจ�ำนวนเพิ่มมากขึ้น ชนช้ันล่างลด
จำ� นวนลง ความขดั แยง้ ทางชนชน้ั ลดลง ปญั หาความขดั แยง้ ระหวา่ งชนชน้ั สงู หรอื เจา้ ศกั ดนิ า หรอื อำ� มาตย์
กับชนช้ันล่างหรือไพร่ถูกขจัดไปจากสังคม การแบ่งชนชั้นการเหยียดหยามระหว่างชนชั้นสูง-ล่างลดลง
ชนชน้ั ลา่ งหรอื ชนชนั้ ผใู้ ชแ้ รงงานเรม่ิ มพี ลงั ตอ่ รองกบั รฐั หรอื ชนชนั้ สงู กวา่ มากขน้ึ ชนชน้ั ลา่ งหรอื ชนชนั้ ลา่ ง
กา้ วหนา้ มากขึน้ เพราะเกดิ จากการสะสมประสบการณ์ท�ำใหม้ ีพลงั ในการดิน้ รน สร้างสรรค์ ยทุ ธวธิ ี และ
การต่อรอง เพอื่ ให้ตวั เองอยรู่ อด หรือมศี กั ดิ์ศรีเท่าเทียมกบั ชนชน้ั ทส่ี ูงกว่า ฯลฯ ท้ังนี้ เนอื่ งมาจากเหตผุ ล
ดังน้ี (ธรี ยุทธ บญุ ม,ี 2548, น. 34)
1. การเลอื่ นชนชน้ั ทางสงั คมของบคุ คลในสงั คมไทยเปน็ สงิ่ ทเ่ี ปน็ ไดง้ า่ ย เพราะสงั คมไทยไดช้ อ่ื วา่
เป็นสังคมสมัยใหม่ สังคมอุตสาหกรรม สังคมการค้าและบริการมีการพัฒนาให้เจริญก้าวหน้า ซึ่งเป็น
ผลมาจากการพฒั นาประเทศผคู้ นไมฝ่ งั ตนอยกู่ บั ธรรมเนยี มประเพณเี ดมิ มอี าชพี ใหเ้ ลอื กทำ� มากมายตาม
ความสามารถ การเลื่อนช้ันทางสังคมของบุคคลจึงมีลักษณะการเล่ือนช้ันในทางท่ีสูงข้ึน โดยสัมพันธ์กับ
การเปลีย่ นฐานะทางอาชีพ (Occupational Mobility) และการเปล่ยี นทที่ างภูมิศาสตร์ (Geograptical
Mobility) เช่น การเปล่ียนอาชพี จากอาชพี เดมิ ไปสู่อาชีพใหม่ที่สังคมยอมรับว่ามีเกยี รตสิ งู กวา่ สว่ นการ
เปลยี่ นทที่ างภมู ศิ าสตรเ์ ปน็ การยา้ ยถนิ่ ทอ่ี ยู่ เชน่ จากชนบทสเู่ มอื ง หรอื จากถนิ่ หนงึ่ ไปสทู่ ส่ี งั คมยอมรบั วา่
เป็นถน่ิ ทอี่ ยขู่ องชนชน้ั สงู หรือชนชั้นผดู้ ี