Page 35 - เศรษฐศาสตร์อุตสาหกรรม เทคโนโลยี และความจำเริญทางเศรษฐกิจ
P. 35
แนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวขอ้ งกบั ความจำ�เริญทางเศรษฐกิจ II 3-25
สถาบนั ทไี่ อเรสเสนอใหม้ กี ารปฏริ ปู คอื ระบบการศกึ ษา โดยไอเรสเหน็ วา่ การศกึ ษาเปน็ ปจั จยั หลกั
ของการพฒั นา การศกึ ษาจะตอ้ งขยายใหท้ วั่ ถงึ ประชาชนสว่ นใหญ่ เปน็ การขยายโอกาสทางการศกึ ษา ซงึ่
เป็นการสะสมทุนมนุษย์ การศึกษาจะท�ำให้เกิดการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมตามแบบแผนทางสังคมที่เป็น
อุปสรรคตอ่ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยแี ละท�ำให้เกิดการพฒั นาทางเทคโนโลยไี ด้
นักเศรษฐศาสตร์ยุกต์ปัจจุบันหลายท่านให้การสนับสนุนว่าการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของ
ประเทศต่างๆ มาจากนวตั กรรมใหมๆ่ ท่ีเกดิ จากผลการวิจยั และพัฒนา และนำ� ผลการวจิ ยั ไปประยุกต์ใช้
ในชวี ิตประจ�ำวนั และการผลิตสินค้าตา่ งๆ ในโรงงาน รวมท้ังพฒั นาแรงงานคนให้มีความร้คู วามสามารถ
ในการผลิตและการบริหารจัดการในระบบใหม่ จนเกิดเป็นแนวคิดใหม่ในการสร้างการเจริญเติบโตทาง
เศรษฐกิจ เชน่
ทฤษฎกี ารเจรญิ เตบิ โตแบบใหมข่ องโรเมอร์ (Romer) ทแี่ บบจำ� ลองของเขาไดเ้ นน้ บทบาทสำ� คญั
ของความรู้ กลา่ วคือ การสะสมความรเู้ ปน็ ตวั ขับเคลอื่ นหลกั ของการเจรญิ เตบิ โตในระยะยาวขององค์กรท่ี
แสวงหาก�ำไรสงู สดุ ซึ่งการลงทุนในการสร้างความร้มู ผี ลกระทบภายนอกและความรูท้ ไี่ ดร้ บั การสะสมจาก
การใชท้ รพั ยากรไปกบั การวจิ ยั ดงั นนั้ การเพม่ิ ขนึ้ ของผลติ ภาพสว่ นเพม่ิ ทนุ สามารถเกดิ ขน้ึ ไดถ้ า้ มกี ารเพม่ิ ขน้ึ
ของผลิตภาพของความรู้ โดยในแบบจ�ำลองของโรเมอร์นั้น ทุนมนุษย์และการท�ำวิจัยและพัฒนาจึงเป็น
ตวั แปรหลกั ทชี่ วี้ า่ ประเทศตา่ งๆ สามารถกา้ วทนั ตามประเทศทก่ี า้ วหนา้ กวา่ ไดห้ รอื ไม่ ดงั เหตนุ ค้ี วามจำ� เรญิ
ทางเศรษฐกิจจึงขน้ึ อยูก่ บั ทนุ มนษุ ย์ การท�ำวจิ ยั และการพัฒนา
ใน ค.ศ. 1990 โรเมอร์ได้ปรบั แบบจ�ำลองโดยไดอ้ ธิบายการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยเี ข้าไว้ใน
แบบจำ� ลอง ทีเ่ นน้ ถึงความส�ำคญั ของการเพิ่มขนึ้ ของประสทิ ธผิ ลของกำ� ลงั แรงงานและสตอ๊ กของทุน และ
การเปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยีท่ีก่อให้เกิดการเพ่ิมขึ้นของผลผลิตต่อคนงาน อัตราการเปล่ียนแปลงทาง
เทคโนโลยีข้นึ อยูก่ บั อตั ราดอกเบี้ย แบบจำ� ลองดงั กลา่ วจงึ เนน้ ใหค้ วามสำ� คญั กบั การเพิ่มขน้ึ ของผลติ ภาพ
ของมนุษย์ในการท�ำวิจัย และชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีมีผลกระทบภายนอกที่มีอิทธิพลต่อฟังก์ชันการผลิต
ของผู้ประกอบการ รัฐบาลควรเข้าไปแทรกแซงในการสนับสนุนโครงการวิจัย ซึ่งจะได้ผลมากกว่าการ
สนบั สนนุ การสะสมทนุ กายภาพ แตถ่ า้ มปี ญั หาในทางปฏบิ ตั อิ าจเปน็ การสนบั สนนุ การสะสมทนุ มนษุ ยแ์ ทน
ซึ่งก็หมายความว่าการมีสต๊อกของทุนมนุษย์จ�ำนวนมากในระบบเศรษฐกิจจะน�ำไปสู่การเพ่ิมขึ้นของการ
เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังน้ันทฤษฎีการเจริญเติบโตแบบใหม่จึงเป็นการอธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง
ความจ�ำเริญทางเศรษฐกจิ กบั การเปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยี เนอื่ งจากการเปลย่ี นแปลงทางเทคโนโลยีที่
เป็นตัวแปรภายในมีผลกระทบภายนอกที่เก่ียวข้องกับการพัฒนาความรู้ทางเทคนิค ผลกระทบภายนอก
อาจเป็นรปู แบบของการเรยี นรใู้ นแบบของทนุ มนษุ ย์หรือความรทู้ ่ีใชใ้ นการพฒั นากรรมวิธีการผลติ
นอกจากนั้นยังมีนักเศรษฐศาสตร์อีกกลุ่มหน่ึงท่ีเห็นว่าความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของประเทศ
ตา่ งๆ มคี วามแตกต่างกนั มาจากบทบาทเทคโนโลยีที่มีอยู่ในระบบเศรษฐกิจนั้นๆ นักเศรษฐศาสตรก์ ล่มุ นี้
เช่น โกมลู กา (Gomulka) และคอร์นวอล (Cornwall) โดยได้ชี้ให้เหน็ วา่ ถ้าประเทศกำ� ลงั พัฒนาต้องการ
ใหร้ ะดบั การพฒั นาของตนเองสงู ขนึ้ กต็ อ้ งใหค้ วามสำ� คญั กบั การพฒั นาเทคโนโลยี และการสรา้ งเทคโนโลยี
ใหม่ภายในประเทศและการพัฒนาขีดความสามารถทางเทคโนโลยีของตนเองข้ึนมา ทั้งน้ีเพื่อลดช่องว่าง
ทางเทคโนโลยีระหวา่ งประเทศ

