Page 65 - ประสบการณ์วิชาชีพวิทยาการคอมพิวเตอร์
P. 65

ดจิ ิทลั เชิงประยุกต์ด้านการเกษตร 8-55
       1.6 	การก�ำกับดูแลและการช�ำระเงินอุดหนุนการเกษตร การกำ� กบั ดแู ลในการจดั การเงนิ อดุ หนนุ
ต่างๆ ควรมีไว้เพ่ือให้บริการประชาชน รัฐบาลหลายแห่งมีการบันทึกข้อมูลจ�ำนวนมากลงในฐานข้อมูลท่ี
เชอ่ื มโยงกบั บลอ็ กเชน ซง่ึ เปน็ การรวมเอาสญั ญาตา่ งๆ เขา้ ดว้ ยกนั แบบอตั โนมตั ิ เพอ่ื ใหม้ องเหน็ ภาพรวม
ของการอุดหนุนสินค้าเกษตรทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้นบล็อกเชนยังสามารถใช้เป็นแพลตฟอร์มเพื่ออ�ำนวย
ความสะดวกในการช�ำระเงนิ ต่างๆ ได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพและไม่ซบั ซ้อน
       1.7 	เกษตรกรรมท่ีชุมชนให้การสนับสนุน การด�ำเนินการทางการเกษตรที่ได้รับการสนับสนุน
จากชุมชน โดยสมาชิกของชมุ ชนทใ่ี ห้คำ� ม่ันสญั ญาว่าจะสนบั สนนุ การด�ำเนินการทางการเงิน เพื่อแลกกับ
ผลไม้ ผกั เนอื้ สตั ว์ หรอื สงิ่ อนื่ ๆ ทไ่ี ดจ้ ากฟารม์ ของตนเอง เกษตรกรทอ่ี ยใู่ นชมุ ชนและมอี ายนุ อ้ ย มแี นวโนม้
ท่ีจะยอมรับเทคโนโลยีบล็อกเชนมากขึ้น การด�ำเนินงานของบล็อกเชนส�ำหรับเกษตรกรรมในชุมชน เช่น
การทำ� โทเคน็ ของหนุ้ ในฟารม์ ชมุ ชนเพอ่ื การขายทส่ี ะดวก รวดเรว็ ยงิ่ ขนึ้ หรอื การใหร้ างวลั แรงงานอาสาสมคั ร
โดยตรงดว้ ยการแบง่ ปนั อาหาร ใหร้ างวลั ความสามารถในการลดขยะในชมุ ชนผา่ นการตดิ ตามคณุ ภาพของ
การเพาะปลูกโดยใชเ้ ซนเซอร์ เปน็ ตน้
       1.8 	การโอนเงนิ ผา่ นโทรศพั ทม์ อื ถอื สำ� หรบั เกษตรกรรายยอ่ ย มเี กษตรกรรายยอ่ ยหรอื ผทู้ ท่ี ำ� งาน
ในทดี่ นิ ขนาดเลก็ เพอ่ื การยงั ชพี และเกบ็ เกยี่ วพชื ผลเพยี งไมก่ ค่ี รง้ั เปน็ จำ� นวนมาก การมรี ะบบการชำ� ระเงนิ
ที่ดีข้ึนจึงเป็นสิ่งจ�ำเป็นท่ีเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่ชนบทห่างไกลต้องการ ความยากล�ำบากทางการเงิน
ของเกษตรกรรายย่อยและชีวิตในชนบทได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอน เช่น การเปลี่ยนแปลงของ
สภาพอากาศและการเข้าท�ำลายของศัตรูพืช ซึ่งเง่ือนไขเหล่านี้ท�ำให้เกิดความเครียดส�ำหรับผู้ท่ีท�ำ
เกษตรกรรมในชนบท ดังน้ัน การสร้างการจ่ายเงินที่สม่ําเสมอและรวดเร็วข้ึน ส�ำหรับเกษตรกรรายย่อย
น้ันถือเป็นส่ิงส�ำคัญ ด้วยแพลตฟอร์มบล็อกเชน โทรศัพท์มือถือสามารถใช้ในการช�ำระสินค้าและบริการ
แบบเรียลไทม์ได้ และยังมีระบบความโปร่งใสส�ำหรับผู้ซ้ือสินค้าอีกด้วย ซ่ึงแพลตฟอร์มเหล่านี้สามารถ
นำ� มาใชไ้ ดอ้ ย่างกว้างขวาง
       1.9 	การสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติที่ยั่งยืน วธิ ีปฏิบตั ทิ ั่วไปๆ หลายประการในการเกษตรท่ไี ม่
ย่ังยืน จะท�ำให้เกิดการตกค้างของสารเคมีก�ำจัดศัตรูพืช และปริมาณของสารเคมีเหล่าน้ีจะตกสู่แหล่งน้ํา
ทใ่ี ช้ส�ำหรับดมื่ ทำ� อาหารและ/หรืออาบนา้ํ ส่วนใหญ่เกดิ จากการท�ำเกษตรกรรมที่ไมย่ ั่งยนื ทง้ั สนิ้ โดยสาร
เคมที ่พี บในการปนเป้ือนนา้ํ ใต้ดินทม่ี ีปริมาณมากท่ีสุด ได้แก่ ไนเตรต ซงึ่ เปน็ องคป์ ระกอบหลกั ในปุย๋ พชื
นอกเหนอื จากความเสยี หายทเี่ กดิ ขน้ึ กบั แหลง่ นาํ้ ทส่ี ำ� คญั แลว้ ดนิ กจ็ ะสญู เสยี หรอื ถกู ทำ� ลาย อนั เปน็ ผลมาจาก
การเลยี้ งพชื ผลในแตล่ ะปอี กี ดว้ ย การใชแ้ พลตฟอรม์ บลอ็ กเชนสามารถสรา้ งแรงจงู ใจในการปฏบิ ตั ทิ ยี่ งั่ ยนื
มากขนึ้ โดยเฉพาะในประเทศทย่ี ากจน เชน่ สหกรณก์ ารเกษตรทขี่ บั เคลอ่ื นโดยบลอ็ กเชน สามารถใหร้ างวลั
การปฏบิ ตั ทิ ยี่ ง่ั ยนื ใหแ้ กเ่ กษตรกร เพอื่ เปน็ ตวั อยา่ งใหเ้ กษตรกรสรา้ งวธิ กี ารของตนเองขนึ้ มาได้ ในทำ� นอง
เดียวกันหากเกษตรกรคนใดสามารถพิสูจน์ได้ว่าได้เพิ่มผลผลิตในลักษณะท่ีเป็นเกษตรอินทรีย์และมี
ความย่งั ยนื เกิดข้นึ เกษตรกรผู้นน้ั อาจจะได้รบั รางวัลระดบั พรเี มียมทเ่ี ปน็ เงินมูลค่าสูง ซ่ึงถอื เปน็ แรงจูงใจ
อนั ทรงพลงั ในการเปลย่ี นแนวทางปฏบิ ตั ทิ นี่ ำ� ไปสกู่ ารเสอ่ื มสภาพของสงิ่ แวดลอ้ มอยา่ งรนุ แรง ใหเ้ กดิ รปู แบบ
เกษตรอินทรยี ท์ ่ีไม่ทำ� ลายส่ิงแวดลอ้ มได้
   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70