Page 33 - 120ปี บารมีพระปกเกล้า รวมผลงานการประกวดวรรณกรรมร้อยกรอง และการประชันกลอนสด เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
P. 33
19
เพือ่ เฉลมิ พระเกยี รตพิ ระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจา้ อยู่หวั
สว่ นกจิ กรรมสดุ ทา้ ยคอื กลอนวบิ าก วบิ ากจรงิ ๆ ส�ำ หรบั เดก็ ทโี่ ดนเพอื่ นสง่ มาเปน็ ตวั แทนแตล่ ะกลมุ่
เด็กต้องปั่นจิ้งหรีด ๑๐ รอบ วิ่งมากินขนม ๑ ชิ้น น้ำ�ผลไม้ ๑ กล่อง น้ำ� ๑ ขวด แล้วจึงวิ่งไปหยิบ
โพยใบ้คำ� เด็กทำ�ท่าใบ้จากที่ไกลให้เพื่อนในกลุ่มดู กลุ่มต้องแต่งกลอนให้มีแนวคิดตามที่เพื่อน
ใบ้มา ก็อีกเช่นเดียวกัน ผลงานออกมาดีทีเดียว กิจกรรมนี้โหดตรงที่ให้กินเร็ว (ทั้งๆ ที่เพิ่งกิน
ข้าวมา) คนดูสนุก ส่วนตัวแทนที่ยืนดูเพื่อนๆ แต่งกลอนอยู่ห่างๆ พูดเสียงอ่อยว่าสนุก บางคนก็
ทำ�ท่าจุก กิจกรรมสัมพันธ์ยุคนี้ต้องมีผู้เสียสละอย่างนี้แหละ
จะเห็นได้ว่าในกิจกรรมสัมพันธ์ ต้องใช้ความสามารถด้านการแต่งกลอนด้วย งานนี้รางวัล
มากมายค่ะ วิทยากรแจกหนังสือกลอนของท่านเป็นรางวัลให้แก่เด็ก รวมทั้งกวีรุ่นพี่ได้หารางวัล
มาแจกด้วย
สักวาสาธิต
กิจกรรมก่อนนอนเป็นการสาธิตการแสดงสักวา โดยพี่ ๆ นักกลอน คือ อาจารย์วิษณุ
พุ่มสว่าง ดร. สายป่าน ปุริวรรณชนะ ธีรวัฒน์ กล่าวเกลี้ยง ขวัญชนก ทองล้วน วีณา วุฒิจำ�นงค์
และ ชวิน พงษ์ผจญ อาจารย์สมบัติ เสริมศิลป์ จากโรงเรียนปราจีนกัลยาณี เป็นผู้ดำ�เนินรายการ
โรงเรียนปากเกร็ดได้เอื้อเฟื้อส่งวงดนตรีไทยมาบรรเลง โดยมีอาจารย์นิพนธ์ เป็นผู้ควบคุมวง
นับว่าช่วยให้การสาธิตครั้งนี้สมบูรณ์ การแสดงเริ่มจากการกล่าวนำ�เป็นกลอนโดยอาจารย์สมบัติ
ท่านบอกว่าจะเล่นเรื่องสังข์ทองตอนตีคลี หลังจากนั้นแนะนำ�ผู้แสดง แล้วเชิญให้ธีรวัฒน์กล่าว
ไหว้ครูและเกริ่นชวน ต่อมา ดร. สายป่านทำ�หน้าที่เกริ่นหญิงและแจกตัว อาจารย์วิษณุรับบท
พระอินทร์ ธีรวัฒน์เป็นท้าวสามล ชวินเป็นเจ้าเงาะและพระสังข์ สายป่านเป็นมณฑา ขวัญชนก
เป็นรจนา และวีณาเป็นนางกำ�นัล
เท่าที่ดูการแสดงสักวามาบ่อยครั้งในรอบปีที่ผ่านมา รู้สึกเหมือนเป็นการบันทึก
ประวัติศาสตร์ของความรู้สึกและความคิดเห็นของคนในช่วงนั้นๆ ผู้แต่งสักวามักสอดแทรก