Page 26 - การวิจัยการบริหารการศึกษา หน่วยที่ 12
P. 26

12-16

ตอนท่ี 12.2	 การเขยี นรายงานการวิจัย

สาระสงั เขป

       การเขียนรายงานการวิจัย เป็นภารกิจท่ีจ�ำเป็นอย่างหนึ่งของนักวิจัยที่ต้องท�ำเพื่อเป็นการเผยแพร่
ผลการศึกษาค้นคว้า และข้อค้นพบต่าง ๆ ไปยังผู้ที่สนใจ การวิจัยจึงเป็นการวิจัยที่เป็นประโยชน์ ดังนั้น
การเขียนรายงานการวิจัยจึงเป็นประโยชน์และมีความส�ำคัญย่ิง ก่อนเริ่มเขียนรายงานการวิจัย ผู้วิจัยควร
ท�ำความเข้าใจและวางแผนตามขั้นตอนการเขียนรายงานการวิจัย คือ ก�ำหนดจุดมุ่งหมายของการท�ำรายงาน
เลือกเร่ือง ต้ังช่ือและก�ำหนดขอบเขตของเร่ือง เขียนโครงเร่ืองของรายงาน ส�ำรวจแหล่งข้อมูลและรวบรวม
ข้อมูล อ่านและบันทึก เรียบเรียงเนื้อหา ตรวจสอบคุณภาพเบ้ืองต้น และปรับปรุงรายงาน

       ส�ำหรับการเขียนรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์มีความแตกต่างกับการเขียนรายงานการวิจัยแบบ
อ่ืน ๆ เช่น การเขียนรายงานเชิงวารสารหรือบทความ การเขียนรายงานภายใน การเขียนรายงานเชิงบริหาร
เพราะรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ต้องเขียนอธิบายขั้นตอนต่าง ๆ ในการศึกษาวิจัย ตลอดจนผลการศึกษา
ค้นคว้าที่ได้ ซึ่งต้องรายงานตามสภาพความเป็นจริง แม้จะมีการแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมก็ต้องมีหลักฐาน
สนับสนุนความคิดเห็นดังกล่าว และรายงานวิจัยจะเกิดประโยชน์ก็ต่อเมื่อผู้ท่ีสนใจอ่านงานวิจัยแล้วเข้าใจ
งานวิจัยได้โดยง่าย ดังนั้น การเขียนรายงานการวิจัยจ�ำเป็นต้องใช้ภาษาที่ชัดเจนไม่ก�ำกวม เข้าใจง่าย เช่ือถือ
ได้ในงานวิชาชีพท่ีเก่ียวข้อง หรือถูกต้องตามหลักวิชาการมีหลักฐานอ้างอิง ใช้ภาษาเขียนไม่ใช้ภาษาพูด หลีก
เล่ียงการใช้ภาษาต่างประเทศท่ีมีค�ำไทยใช้แทนแล้ว หลีกเลี่ยงการใช้อักษรย่อที่ไม่เป็นท่ียอมรับ หรือยังไม่รู้
จักกันอย่างแพร่หลาย ไม่ขัดแย้งกับหลักทฤษฎี หรือข้อเท็จจริง ข้อความท่ีใช้ต้องมีความคงเส้นคงวา หรือ
ว่ามีความสม่ําเสมอในการพิมพ์ตลอดทั้งเอกสาร การเขียนเอกสารอ้างอิงควรใช้ข้อความแสดงความเป็นอดีต
ควรมีการเรียงล�ำดับที่ระบบต่อเน่ือง เช่ือมโยง และไม่ซํ้าซ้อนวกวน

       การเขียนรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ ซ่ึงอาจเป็นงานวิจัยเชิงปริมาณหรืองานวิจัยเชิงคุณภาพ งาน
วิจัยท้ังสองประเภทมีวิธีการเขียนท่ีแตกต่างกัน ข้ึนอยู่กับว่างานวิจัยที่ต้องการจัดท�ำขึ้นภายใต้วัตถุประสงค์
อะไร นอกจากนี้การเขียนรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ยังต้องค�ำนึงถึงรูปแบบของการเขียนที่มักเขียนตาม
รูปแบบของสถาบันการศึกษาท่ีตนศึกษาอยู่ แหล่งทุนวิจัย หรือหน่วยงานที่ผู้วิจัยสังกัด ซึ่งส่วนใหญ่แบ่งการ
เขียนรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์เป็น 3 ส่วนคือ ส่วนน�ำเร่ือง ส่วนเน้ือเรื่อง และส่วนท้าย

       ส�ำหรับการเขียนบทความการวิจัย เป็นการเขียนที่มีความคล้ายคลึงกับการเขียนรายงานการวิจัย
ฉบับสมบูรณ์ แตกต่างกันที่บทความวิจัยมีความยาวและรายละเอียดน้อยกว่ารายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์
โดยในการเขียนบทความวิจัย ผู้วิจัยต้องศึกษารูปแบบของบทความตามท่ีจะน�ำบทความวิจัยไปตีพิมพ์
เผยแพร่ในวารสารทางวิชาการ หรือในรายงานท่ีสืบเน่ืองจากการประชุมทางวิชาการ ส่วนการเขียนรายงาน
การวิจัยแบบบทคัดย่อ เป็นการให้ข้อมูลในรูปของสาระเข้ม ส้ัน กะทัดรัด ถูกต้อง และสมบูรณ์ในตัวเอง เพื่อ
แสดงสาระสรุปของงานวิจัยให้ผู้ท่ีสนใจเข้าใจสาระส�ำคัญโดยไม่ต้องอ่านงานวิจัยฉบับสมบูรณ์
   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31