Page 80 - หลักการและแนวคิดทางการปฐมวัยศึกษา หน่วยที่ 4
P. 80

4-70 หลักการและแนวคิดทางการปฐมวัยศึกษา

5. 	 ปฏริ ปู กระบวนการเรียนรู้ในสถานศึกษา
       การเรียนรู้ในสถานศึกษาส่วนใหญ่ยังเป็นการศึกษามิติเดียวตามที่กล่าวในตอน 3 “คุรุกรรมของ

ระบบการศึกษามิติเดียว” คือ การถ่ายทอดเนื้อหาวิชา ขาดการเรียนรู้จากชีวิตจริงปฏิบัติจริง ทำ�ให้ทำ�ไม่
เป็น คิดไม่เป็น อยู่ร่วมกันไม่เป็น เฉพาะการคิดไม่เป็นก็นำ�ไปสู่ความเสียหายร้ายแรงสุดประมาณ ในสมัย
ที่ท่วมท้นไปด้วยข่าวสาร คนไทยขาดความสามารถในการวิเคราะห์ข่าวสารจนเกิดวิจารณญาณว่าสิ่งใดเชื่อ
ได้ไม่ได้ สิ่งใดมีประโยชน์หรือโทษอย่างไร การที่คนไทยทั้งมวลขาดวิจารณญาณ ทำ�ให้ตกเป็นเหยื่อของ
การถูกปลุกระดมให้เป็นโรคบริโภคนิยม กระทบต่อเศรษฐกิจของครอบครัว เกิดอันตรายต่อสุขภาพ เช่น
เด็กตกเป็นเหยื่อของการกินขนมหลอกเด็กที่เอาเงินจากพ่อแม่ไปปีละประมาณ 170,000 ล้านบาท โดยทิ้ง
ปัญหาสุขภาพไว้ให้ การเชื่อง่ายเพราะขาดวิจารณญาณทำ�ให้ตกเป็นเหยื่อของการปลุกระดมทางการเมือง
ทำ�ให้เกิดความแตกแยก ความโกรธ ความเกลียด ความรุนแรง สังคมที่ขาดวิจารณญาณทำ�ให้ทำ�เรื่องดีๆ
ได้ยาก ปัญหาเก่าแก่แก้ไม่ได้ เรื่องใหม่ๆ ดี ก็ทำ�ไม่เป็นทำ�ให้สังคมสะสมปัญหามากขึ้นๆ จนวิกฤต นี้ก็เป็น
ผลจากระบบการเรียนรู้ที่ไม่ทำ�ให้ประชาชนสามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ข่าวสารที่ได้รับจนเกิดวิจารณญาณ
การเรียนรู้ในสถานศึกษายังขาดจิตตปัญญา ที่รู้ใจตนเองจนเกิดปัญญา เมื่อไม่สามารถยกใจสู่ปัญญาก็ติด
อยู่ในโมหภูมิ* หรือสภาวะอวิชชา เมื่อขาดปัญญา ศาสตร์ก็กลายเป็นศาสตราที่ใช้ทิ่มแทงทำ�ร้ายกัน นำ�ไปสู่
สภาวะโกลาหลทางสังคมและวิกฤตการณ์ ฉะนี้

       ฉะนั้นการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ในสถานศึกษา จึงเป็นหัวใจของการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้
สถานศึกษาทุกแห่งโดยเฉพาะมหาวิทยาลัยควรมีโจทย์ใหญ่ว่า “กระบวนการเรียนรู้ที่ดีของมนุษย์คือ
อย่างไร” การแสวงหาคำ�ตอบนี้จะนำ�ไปสู่การที่มีคณาจารย์จำ�นวนหนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในกระบวนการเรียนรู้
ถ้ามหาวิทยาลัยทุกแห่งมีมวลวิกฤต (critical mass) ของคณาจารย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในกระบวนการเรียนรู้
จะเกิดอานิสงส์มหาศาล คือเกิดการปฏิรูปการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัย และต่อไปสู่การปฏิรูปการเรียนรู้ใน
โรงเรียนและนอกโรงเรียนทั้งหมด นั่นคือสังคมทั้งสังคมมีกระบวนการเรียนรู้ที่ดี

       ฉะนั้น การส่งเสริมให้มีมวลวิกฤตของคณาจารย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในกระบวนการเรียนรู้ที่ดี จึงเป็น
หัวใจของยุทธศาสตร์ สังคมแห่งการเรียนรู้

6. องค์กรเรียนรู้-องค์กรสง่ เสรมิ การเรียนรู้
       ในปัจจุบันคนจำ�นวนมากทำ�งานอยู่ในองค์กรชนิดใดชนิดหนึ่ง เช่น โรงงาน สถานประกอบการ

บริษัท ธนาคาร หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ กรม กอง กองทัพ ฯลฯ ถ้าองค์กรทั้งหมดเป็นองค์กรเรียนรู้
สนับสนุนการเรียนรู้ในองค์กร ก็จะเป็นมวลทางปัญญาที่ใหญ่มาก ตามธรรมชาติองค์กรภาคธุรกิจจะ
ส่งเสริมการเรียนรู้ในองค์กรเพราะทำ�ให้องค์กรลดต้นทุนและเพิ่มกำ�ไร แต่องค์กรภาครัฐยังเฉื่อยชาทาง
ปัญญาอยู่ เพราะอยู่ในระบบเช้าชามเย็นชาม ควรแสวงหามาตรการที่ส่งเสริมให้องค์กรทุกประเภทเป็น
องค์กรแห่งการเรียนรู้ องค์กรส่งเสริมการเรียนรู้ อาจเป็นมาตรการทางกฎหมายและทางภาษี บางประเทศ
มีกฎหมายที่ให้ภาคธุรกิจที่มีพนักงานตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปต้องตั้งงบประมาณไว้ส่วนหนึ่งเพื่อจัดการเรื่องการ
เรียนรู้ของพนักงาน กองทัพมีทั้งกำ�ลังคนและทรัพยากรต่างๆ มาก หากกองทัพเป็นสถาบันพัฒนาคนจะเป็น
   75   76   77   78   79   80   81   82   83   84