Page 44 - การบริหารความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ
P. 44
11-34 การบริหารความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ
verification) และการลงลายมือช่ือ (signature dynamics) เป็นต้น ซึ่งการพิสูจน์ตัวจริงของบุคคลด้วยวิธีนี้ถือเป็น
วิธีท่ีแม่นย�ำ และมีความน่าเชื่อถือมาก เน่ืองจากบุคคลแต่ละคนจะมีลักษณะที่แตกต่างกันในทุก ๆ ส่วน ถึงแม้จะต้อง
เปน็ แฝดเหมอื นทอ่ี าจมรี ูปหนา้ ท่คี ลา้ ยคลงึ กนั มากแต่ลายนิ้วมอื ช่องตาดำ� มา่ นตา หรือโครงสรา้ งฝ่ามอื จะมีเอกลักษณ์
เฉพาะของแต่ละคนเอง
เทคโนโลยีไบโอเมตริกส์น้ันเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับองค์กร หรือแม้แต่ระดับประเทศเองเนื่องจาก
สามารถป้องกันบุคคลท่ีน่าสงสัย หรือผู้ไม่ประสงค์เข้ามาก่อกวนได้ ดังน้ัน ในปัจจุบันจึงเร่ิมมีการน�ำเทคโนโลยีทาง
ด้านน้ีไปใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น การควบคุมการเข้าออกอาคาร การจัดฐานข้อมูลอาชญากร การควบคุมการลง
เวลางานและการตรวจสอบคนเข้าเมือง เป็นต้น นอกจากน้ีธนาคารในต่างประเทศหลาย ๆ แห่งก็เริ่มที่จะน�ำเทคโนโลยี
ชนิดน้ีเข้ามาใช้กันมากข้ึน เพื่อป้องกันอาชญากรรมต่าง ๆ ท่ีอาจจะเกิดข้ึนได้จากการระบุตัวบุคคลผิดพลาด
6. ระบบปอ้ งกันอคั คีภัย
ไฟจะเกิดข้ึนได้จะต้องมีองค์ประกอบ และองค์ประกอบดังกล่าวจะต้องได้สัดส่วนและอัตราส่วนที่เหมาะสม
เท่าน้ันจึงจะเกิดเป็นไฟขึ้น และองค์ประกอบของไฟมีอยู่ 3 อย่างดังนี้
1) เช้ือเพลงิ มอี ยูห่ ลายสถานะ เชน่ ของแข็ง เชน่ ไม้ ผา้ หญ้า ฟาง เปน็ ต้น ของเหลว เชน่ น้ํามัน ทินเนอร์
ยางมะตอย ก๊าซ เช่น ก๊าซหุงต้ม ก๊าซ NGV แต่อย่างไรก็ตามเชื้อเพลิงจะติดไฟได้ต้องอยู่ในสถานะเป็นไอก่อนเสมอ
โดยการใช้ความร้อนไปท�ำให้อุณหภูมิของเชื้อเพลิงท่ีเป็นของแข็งหรือของเหลวให้กลายเป็นไอเสียก่อน แต่บางชนิด
ไม่จ�ำเป็นต้องใช้ความร้อนไปท�ำให้อุณหภูมิของตัวมันให้กลายเป็นไอ เพราะจุดวาบไฟของเชื้อเพลิงแต่ละอย่างจะ
ไม่เท่ากัน เช่น น้ํามันเบนซิน หรือก๊าซ เป็นต้น ความร้อนที่ท�ำให้เชื้อเพลิงเปลี่ยนสถานะเป็นไอ เข้าผสมกับอากาศอย่าง
ได้สัดส่วนและพร้อมท่ีจะลุกไหม้ได้ เราเรียกว่า “จุดวาบไฟ”
2) ออกซเิ จน คือ บรรยากาศท่ีมีออกซิเจนอยู่ในอัตราประมาณร้อยละ 21% ออกซิเจนเป็นก๊าซที่ช่วยติดไฟ
แต่ถ้าในบรรยากาศท่ีมีออกซิเจนต่ํากว่าร้อยละ 16% ไฟจะไม่ติด เพราะอากาศไม่ได้สัดส่วนกับเช้ือเพลิงน่ันเอง ส่วน
ไนโตรเจนท่ีมีอยู่ในอากาศประมาณร้อยละ 79% น้ันไม่ได้ช่วยในการเผาไหม้แต่ช่วยในการพาความร้อนจากที่หนึ่งไป
ติดต่อลุกไหม้ได้อีกท่ีหน่ึง เช่น ไฟไหม้อยู่ช้ันล่างควันและความร้อนจะลอยข้ึนไปยังชั้นบนติดต่อลุกลามส่วนบนของ
เพดาน หรือโครงหลังคาเหล่าน้ี เป็นต้น
3) ความร้อน จะเป็นต้นเหตุแห่งการจุดติด แต่ก็ต้องสูงพอที่จะท�ำให้ระดับอุณหภูมิของสิ่งที่เป็นเชื้อเพลิง
ให้ถึงจุดติดไฟ หรือจุดชวาล (auto-ignition point) ของเช้ือเพลิงน้ัน ๆ ซึ่งความร้อนถึงจุดติดไฟจะท�ำให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงทางเคมีอย่างรวดเร็ว (rapid combustion) เกิดเป็นไฟและการเผาไหม้ข้ึน
การแยกประเภทของไฟเป็นสิ่งที่ส�ำคัญเนื่องจากถ้ารู้สาเหตุก็สามารถเลือกสิ่งที่ใช้ดับไฟได้ถูก ดังแสดงใน
ตารางข้างล่าง ไฟแบ่งออกเป็น 4 ประเภทซึ่งแยกตามวัสดุที่ท�ำให้เกิดไฟนั้น