Page 48 - การบริหารความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ
P. 48
11-38 การบริหารความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ
สรุปได้ว่า ดาต้าเซ็นเตอร์เป็นหัวใจของระบบสารสนเทศ ถ้าอุปกรณ์ที่อยู่ในดาต้าเซ็นเตอร์หยุดท�ำงานก็จะ
ท�ำให้ระบบหยุดท�ำงานไปด้วย ดังนั้น การปรับปรุงและดูแลระบบสารสนเทศให้ดีก็จะท�ำให้สามารถให้บริการระบบ
สารสนเทศไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และสามารถเฝา้ ตรวจตดิ ตาม ควบคมุ บรหิ ารจดั การ และดแู ลระบบเครอื ขา่ ยขอ้ มลู
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหากตรวจพบข้อขัดข้องก็สามารถแก้ปัญหาได้รวดเร็วทันท่วงที ท�ำให้ระบบสารสนเทศ
สามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชม.
การเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพและศกั ยภาพการรกั ษาความมน่ั คงปลอดภยั ขอ้ มลู ขา่ วสารในเครอื ขา่ ยระบบสารสนเทศ
โดยสามารถป้องกันการบุกรุกท้ังทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์และทางด้านกายภาพ ท�ำให้ระบบสารสนเทศมีความ
ปลอดภัยจากการถูกจารกรรมหรือเข้าถึงข้อมูลที่ชั้นความลับ หรือท�ำให้ระบบหยุดให้บริการ นอกจากนี้ควรปฏิบัติตาม
ข้ันตอนต่าง ๆ ท่ีกฎหมายก�ำหนด เช่น การจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ตามกฎหมายท่ีก�ำหนด ระบบ
สารสนเทศเป็นระบบท่ีส�ำคัญและจะเป็นอย่างย่ิงต่อธุรกิจของทุก ๆ องค์กรในปัจจุบันซึ่งเป็นยุคท่ีมีการแข่งขัน
ค่อนข้างสูง หากระบบฯ ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ปลอดภัย ไม่สามารถใช้งานได้ในเวลาที่ต้องการใช้ หรือล่าช้าไม่ทันเวลา
หรือถูกเปิดเผยต่อฝ่ายตรงข้ามโดยผู้ไม่หวังดี หรือระบบฯ ถูกท�ำให้หยุดชะงักย่อมเกิดผลกระกระทบต่อธุรกิจของ
องค์กร
กจิ กรรม 11.2.2
1. กระจกที่นยิ มใชใ้ นดาต้าเซ็นเตอร์คือกระจกชนิดใด
2. เทคโนโลยีไบโอเมตรกิ ส์ (biometrcs) คืออะไร
3. การแยกประเภทของไฟแบ่งออกเป็นก่ีประเภทซ่งึ แยกตามวสั ดุทท่ี �ำให้เกดิ ไฟ
แนวตอบกจิ กรรม 11.2.2
1. กระจกทีน่ ยิ มใชใ้ นดาต้าเซ็นเตอร์ ได้แก่
1) การะจกนริ ภัยเทม็ เปอร์ (tempered safety glass) มลี ักษณะทว่ั ไปเหมอื นกระจกธรรมดาแตม่ ี
คุณสมบัติพเิ ศษทแ่ี ตกตา่ งออกไปคอื เม่อื ถูกแรงกระแทก แผ่นกระจกจะแตกออกเปน็ ชิ้นเล็ก ๆ ไม่มีคม และยัง
มคี วามแขง็ แกร่งกว่ากระจกธรรมดา 3-5 เทา่
2) กระจกโฟลตใสความหนาไม่น้อยกวา่ 6 มม. ผิวเรียบสนิท
2. เทคโนโลยไี บโอเมตรกิ ส์ (biometrics) เปน็ ระบบพสิ จู นต์ วั จรงิ โดยใชส้ ว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกายเปน็ ตวั บง่ ช้ี
วา่ บคุ คลคนนนั้ เปน็ ใคร ซงึ่ สว่ นตา่ ง ๆ ในรา่ งกายทวี่ า่ นอี้ าจเปน็ ลายนวิ้ มอื (fingerprints) ชอ่ งตาดำ� (retina scan)
มา่ นตา (iris scan) โครงสรา้ งฝ่ามอื (palm geometry) รปู หนา้ (facial recognition) เสียงพูด (voice verification)
และการลงลายมอื ชื่อ (signature dynamics) เป็นตน้ ซ่ึงการพิสูจน์ตัวจรงิ ของบุคคลดว้ ยวธิ ีนี้ถือเป็นวิธีทแ่ี ม่นย�ำ
และมีความน่าเช่ือถือมาก เนื่องจากบุคคลแต่ละคนจะมีลักษณะท่ีแตกต่างกันในทุก ๆ ส่วน ถึงแม้จะต้องเป็น
แฝดเหมอื นทอี่ าจมรี ปู หนา้ ทค่ี ลา้ ยคลงึ กนั มากแตล่ ายนวิ้ มอื ชอ่ งตาดำ� มา่ นตา หรอื โครงสรา้ งฝา่ มอื จะมเี อกลกั ษณ์
เฉพาะของแตล่ ะคนเอง
