Page 48 - กฎหมายอาญา 1: ภาคบทบัญญัติทั่วไป
P. 48
48
แบบประเมินผลตนเองหลงั เรยี นหนว่ ยที่ 10
วัตถุประสงค์ เพื่อประเมินความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของนักศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง “เหตุลดโทษ”
คำ�แนะนำ� ขอให้นักศึกษาอ่านคำ�ถามแล้วเขียนวงกลมล้อมรอบข้อคำ�ตอบที่ถูกต้องที่สุด
1. หลกั ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 64 ทว่ี า่ “ความไมร่ ู้ ง. ให้ศาลลงโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กฎหมายกำ�หนด
กฎหมายไม่เป็นข้อแก้ตัว” นั้น ท่านเข้าใจเช่นไร ไว้สำ�หรับความผิดนั้น
ก. ห้ามแก้ตัวว่าไม่รู้บทบัญญัติกฎหมาย
ข. ห้ามแก้ตัวว่าไม่รู้กฎหมายทุกกรณี จ. ให้ศาลลงโทษหนึ่งในสามของโทษที่กฎหมาย
ค. หา้ มแกต้ วั วา่ ไมร่ ูก้ ฎหมายแพง่ และพาณชิ ยเ์ พือ่ ให้ กำ�หนดไว้สำ�หรับความผิดนั้น
พ้นความรับผิด
ง. ห้ามแก้ตัวว่าไม่รู้กฎหมายอาญาเพื่อให้พ้นความ 4. กรณใี ดมใิ ชเ่ หตทุ ีจ่ ะไดร้ บั การลดโทษเนือ่ งจากเปน็ การ
รับผิดทางอาญา กระทำ�โดยป้องกันเกินขอบเขต
จ. ห้ามแก้ตัวว่าไม่รู้กฎหมายสารบัญญัติเพื่อให้พ้น ก. ผู้ตายถือมีดทำ�ครัวใบมีดยาวเพียง 4 นิ้ว กว้าง
ความรับผิด 1 นิ้ว เข้ามาจะทำ�ร้ายจำ�เลย จำ�เลยใช้อาวุธปืนยิง
ผู้ตายเพียงนัดเดียวถูกบริเวณ
2. นางพิกุลมีพี่ชาย 2 คน คือ นายกล้วย นายส้ม และ ข. ผตู้ ายบกุ รกุ เขา้ ไปในบา้ นของจ�ำ เลย และใชม้ ดี ตรง
มีบุตรสาวกับสามีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส 1 คน คือ เข้าไปจะทำ�ร้ายจำ�เลย จำ�เลยจึงต่อสู้แย่งมีดมาได้
นางสาวมะลิ ต่อมานางพิกุลกับนายละมุดซึ่งเป็นลุงได้ และได้ใช้มีดแทงผู้ตายทันทีจนเสียชีวิต
ร่วมกันลักสร้อยคอทองคำ�ของนางสาวมะลิ และนำ�ไป ค. จ�ำ เลยเขา้ จบั กมุ ผเู้ สยี หายซง่ึ เลน่ การพนนั ผเู้ สยี หาย
แบ่งให้กับนายกล้วย นายส้ม ดังนี้ ผู้ใดจะได้รับการ ต่อสู้โดยฟันจำ�เลยที่กกหูขวา จำ�เลยจึงใช้อาวุธ
ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 71 ปืนยิงขาผู้เสียหายขณะผู้เสียหายกำ�ลังหันหลัง
ก. นายส้ม จะวิ่งหนี
ข. นายกล้วย ง. เด็กเข้าไปลักแตงโมในไร่ของจำ�เลย และจำ�เลย
ค. นางพิกุล ได้ต่อและปล่อยกระแสไฟฟ้าจากบ้านพักผ่านรั้ว
ง. นายละมุด ลวดหนาม เป็นเหตุให้เด็กซึ่งสัมผัสรั้วลวดหนาม
จ. ถูกทั้งข้อ ก. และ ง. ถูกกระแสไฟฟ้าดูดจนถึงแก่ความตาย
จ. ชาวบ้านไปขว้างปาบ้านบิดาจำ�เลย จำ�เลยจึงใช้
3. กรณีผู้กระทำ�ความผิดเป็นผู้มีอายุกว่า 15 ปี แต่ตํ่า อาวุธปืนยิงทำ�ร้ายร่างกายผู้ที่ขว้างปาเพื่อป้องกัน
กวา่ 18 ปี ถา้ ศาลเหน็ สมควรพพิ ากษาลงโทษ กฎหมาย ทรัพย์สินของบิดาจำ�เลย
บัญญัติในเรื่องการพิจารณาลงโทษไว้ เช่นไร
ก. ใหศ้ าลลดมาตราสว่ นโทษทกี่ �ำ หนดไวส้ �ำ หรบั ความ 5. ศาลอาจไม่ลงโทษผู้กระทำ�ในกรณีใด
ผิดนั้นลงกึ่งหนึ่ง ก. กระทำ�โดยป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
ข. ใหศ้ าลลดมาตราสว่ นโทษทกี่ �ำ หนดไวส้ �ำ หรบั ความ ข. กระทำ�โดยป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
ผิดนั้นลงหนึ่งในสาม ค. กระทำ�เกินกว่ากรณีแห่งการจำ�ต้องกระทำ�เพื่อ
ค. ใหศ้ าลลดมาตราสว่ นโทษทกี่ �ำ หนดไวส้ �ำ หรบั ความ ป้องกัน
ผิดนั้นลงหนึ่งในสามหรือกึ่งหนึ่งก็ได้ ง. กระทำ�โดยจำ�เป็นเกินขอบเขตเนื่องจากตกใจกลัว
จ. กระทำ�โดยจำ�เป็นเกินกว่ากรณีแห่งความจำ�เป็น