Page 172 - โครงการผลิตหนังสือ อิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เพื่อการเรียนรู้สู่ประชาคมอาเซียน
P. 172

6-18	 หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เพื่อการเรียนรู้สู่ประชาคมอาเซียน

วัฒนธรรมการเคีย้ วหมาก
      การเคี้ยวหมากหรือกุนอิด เป็นวิถีชีวิตของชาวเมียนมาร์ทั้งผู้หญิงและผู้ชายนิยมเค้ียวหมากพลูเป็น

วฒั นธรรมสบื ทอดกนั มาเป็นเวลายาวนาน และในอดีตการต้อนรับแขกท่ีมาเยือนดว้ ยหมาก บุหร่ี และเม่ยี ง ถือ
เป็นวัฒนธรรมด้ังเดิมที่ต้องให้แขกโดยเฉพาะหมาก ชาวเมียนมาร์เช่ือว่ามิตรภาพจะไม่สมบูรณ์หากปราศจาก
การเสิร์ฟหมากพลู จนกระทั่งปัจจุบันหลายๆ บ้านยังนิยมใช้เช่ียนหมากต้อนรับแขกท่ีมาเยือน แต่รัฐบาลไม่
ส่งเสริมให้เคี้ยวหมากเน่ืองจากทาให้พื้นท่ีสาธารณะสกปรกเวลาบ้วนน้าหมากจะเป็นสีแดงและหามาตรการ
ต่างๆ เช่นตัดต้นหมากเพือ่ ให้ลดการเคีย้ วหมากแตช่ าวเมียนมาร์กย็ ังนิยมเคี้ยวหมากอยอู่ ีก

ที่มา: http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10662488/E10662488.html
วัฒนธรรมการทาแปง้ ทานาคา

      การทาแป้งทานาคา ทานาคาเป็นไม้ชนิดหนึ่งท่ีนามาฝนกับแท่นหินและนาน้ามาผสมกับผงทานาคา
และทาผิวหนา้ ของผหู้ ญงิ ชาวเมียนมาร์นิยมทาแป้งทานาคาจนเหน็ เปน็ เอกลกั ษณ์ของสาวชาวเมยี นมาร์

      ซึ่งผงทานาคามาผสมน้าทาไว้ท่ีหน้าเพ่ือช่วยป้องกันแสงแดด ทานาคาเป็นไม้เน้ือเย็นช่วยป้องกัน
ไอร้อนจากรังสีต่างๆ ต้านอนุมูลอิสระในแสงแดด ฝุ่น ควัน ป้องกันการเกิด ฝ้า กระ จุดด่างดา และยังช่วย
ลดเลือนให้จางลงด้วย ใช้เป็นประจาผิวจะขาวเนียนข้ึน มีคุณสมบัติในการลดร้ิวรอย และรักษาสิว สารพัด
ประโยชน์จงึ เป็นเคล็ดลับของชาวเมยี นมารท์ ่นี าทานาคามาทาท้ังใบหน้า แขน ขา และทกุ ส่วนของร่างกาย เชน่
บริเวณรักแร้เพื่อดับกลิ่นตัว ผสมน้าแต้มสิว และรอยแผลเป็นต่าง ๆ หรือผสมน้าทาแก้ผดผ่ืนคันๆ ทั้งนี้ใน
ปจั จบุ ันได้พัฒนานาทานาคามาบรรจุเป็นแป้งสาเร็จรปู หรือเป็นครมี ทาผิวให้สะดวกมากขึ้น

                                                                                                                        18
   167   168   169   170   171   172   173   174   175   176   177