Page 48 - ประวัติศาสตร์ไทย
P. 48

2-38 ประวตั ิศาสตร์ไทย
ชอื่ โถโลโปตี (To-lo-po-ti) เกดิ ขน้ึ บรเิ วณทศิ ตะวนั ออกของอาณาจกั รศรเี กษตร และบรเิ วณทศิ ตะวนั ตก
ของอาณาจักรอสิ านปรุ ะ

       ทวารวดีเปน็ อาณาจกั รใหญ่มีความเจรญิ แผอ่ อกไปกว้างขวาง ครอบคลมุ ดนิ แดนทีเ่ ปน็ ภาคเหนือ
และภาคกลางของประเทศไทยในปัจจุบัน เลยจนถึงหัวเมืองมอญริมฝั่งทะเลอันดามัน ศูนย์กลางของ
อาณาจกั รทวารวดอี ยู่ท่ใี ดไมป่ รากฏชัดเจน โดยนักประวตั ศิ าสตร์มีความเหน็ แตกตา่ งกันเป็น 3 กลุ่ม คอื
กลุ่มท่ี 1 เชอ่ื วา่ อาณาจกั รทวารวดมี ศี นู ยก์ ลางทเ่ี มอื งนครชยั ศรี จงั หวดั นครปฐม กลุ่มท่ี 2 เชอื่ วา่ อาณาจกั ร
ทวารวดมี ศี นู ยก์ ลางอยทู่ เ่ี มอื งอทู่ อง จงั หวดั สพุ รรณบรุ  ี และกลุ่มท่ี 3 เชอ่ื วา่ อาณาจกั รทวารวดมี ศี นู ยก์ ลาง
อย่ทู ตี่ �ำบลคบู วั จังหวดั ราชบุรี การมีขอ้ สันนิษฐานแตกต่างกันเชน่ น้ีเป็นเพราะบรเิ วณท้ัง 3 แหง่ นี้ตา่ งก็มี
ร่องรอยเมอื งโบราณ ศลิ ปวตั ถุ และโบราณสถานแบบทวารวดีเป็นจ�ำนวนมากในหลายท้องท่ี

       แตจ่ ากการขดุ คน้ ทางโบราณคดพี บวา่ แควน้ ทวารวดนี า่ จะมศี นู ยก์ ลางอยทู่ จี่ งั หวดั นครปฐม เพราะ
พบเหรยี ญเงนิ 2 เหรยี ญ มจี ารกึ ภาษาสนั สกฤตอายรุ าวพทุ ธศตวรรษท่ี 13 ทน่ี ครปฐมมจี ารกึ ภาษาสนั สกฤต
วา่ “ศรที วารวตศี วรปณุ ย” แปลวา่ บญุ กศุ ลของพระราชาแหง่ ศรที วารวดี โดยศนู ยก์ ลางของแควน้ ทวารวดี
เดิมน่าจะอยู่ท่ีเมืองอู่ทอง ต่อมาเมืองนครปฐม (เก่า) ได้กลายเป็นศูนย์กลางการปกครองของแคว้นน้ี
เนื่องจากอยู่ใกล้ทะเลที่สามารถติดต่อกับภายนอกได้สะดวก และศูนย์กลางอ�ำนาจต่อมาอยู่ที่เมืองละโว้
(ลพบรุ )ี อโยธยา และอยุธยา ตามล�ำดับ 	 	

       ประชาชนส่วนใหญ่ของแคว้นทวารวดีนับถือพุทธศาสนานิกายเถรวาท โดยจะเห็นได้จากงาน
สร้างสรรค์ศิลปกรรมท่ีค้นพบล้วนเก่ียวข้องกับพุทธศาสนา ขณะเดียวกันก็พบว่ามีการนับถือศาสนา
พราหมณ-์ ฮนิ ดู ทง้ั ลทั ธไิ ศวนกิ าย และลทั ธไิ วษณพนกิ าย เนอ่ื งจากพบการสรา้ งศาสนสถานและรปู เคารพ
ในศาสนาฮนิ ดเู ปน็ สำ� คญั และรบั อทิ ธพิ ลจากอารยธรรมอนิ เดยี นำ� มาผสมผสานกบั ความเชอื่ และวฒั นธรรม
ดงั้ เดมิ ของตนเอง51 แลว้ พฒั นาเปน็ ลกั ษณะเฉพาะตนเองทเี่ รยี กวา่ “ศลิ ปะสมยั ทวารวด”ี ทำ� ใหว้ ฒั นธรรม
ของทวารวดมี ีความเจรญิ และสามารถแพรห่ ลายไปไกลในหลายภมู ิภาคของประเทศไทยในปจั จุบนั

	 51 ศรศี ักร วัลลิโภดม. เรือ่ งเดียวกนั . น. 11.
   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53