Page 18 - ภาษาอังกฤษสำหรับครูสอนภาษา
P. 18
7-8 ภาษาองั กฤษส�ำหรับครสู อนภาษา
เรื่องที่ 7.1.1
องค์ประกอบของประโยค
ค�ำต่างๆ ที่ประกอบกันข้ึนมาเป็นประโยคนั้นเป็นไปตามเกณฑ์ของภาษา นักไวยากรณ์
รนุ่ เกา่ มกั จะกลา่ ววา่ ประโยคประกอบดว้ ยภาคประธานและภาคแสดง ซงึ่ หมายความวา่ คำ� ตา่ งๆ ใน
ประโยคแบ่งออกได้เป็นสองส่วน เราจะพิจารณาประโยคต่อไปน้ีเพ่ือดูว่ามีเหตุผลสนับสนุนแนวคิด
ของนกั ไวยากรณ์ท่ีว่าประโยคมสี ว่ นประกอบหลักอยู่ 2 ส่วนหรือไม่
1. Bill came.
2. The poor have to work hard.
3. The little girl who lives next door can sing beautifully.
4. The news that he was kidnapped shocked his parents.
เมอ่ื ดสู ว่ นทข่ี ดี เสน้ ใตต้ อนตน้ ประโยค จะเหน็ วา่ เปน็ คำ� นามหรอื กลมุ่ คำ� นาม หากใชส้ รรพนาม
แทนส่วนนี้ จะได้ประโยคต่อไปนี้
1. a. He came.
2. a. They have to work hard.
3. a. She can sing beautifully.
4. a. It shocked his parents.
ประโยค 1. a.–4. a. เป็นประโยคที่มีสรรพนามแทนค�ำหรือกลุ่มค�ำท่ีมีประโยคย่อยขยาย
ด้วย และเมือ่ สว่ นน้ีใช้สรรพนาม 1 ตัวแทนได้ ในแง่ของโครงสรา้ งแลว้ สว่ นน้ีไมว่ า่ จะประกอบด้วย
ค�ำหน่ึงคำ� หรือหลายค�ำกต็ ามถอื ว่าเปน็ หนงึ่ หน่วย
เมอ่ื มเี หตผุ ลทจี่ ะคดิ วา่ สว่ นทส่ี รรพนามแทนไดเ้ ปน็ สว่ นประกอบหลกั สว่ นทห่ี นง่ึ ของประโยค
เราก็อาจจะดูต่อไป ส่วนที่เหลือถือว่าเป็นส่วนประกอบส่วนท่ีสองได้หรือไม่ เมื่อพิจารณาค�ำต่างๆ
ในกลุ่มนี้ จะเห็นว่าเป็นกลุ่มค�ำมีกริยาเป็นหลัก และหากจะดูว่ามีค�ำหน่ึงค�ำท่ีใช้แทนกลุ่มค�ำเหล่านี้
หรือไม่ จะต้องเปลี่ยนประโยค 1-4 ให้เป็นประโยคค�ำถามประเภท yes/no แล้ววิเคราะห์ค�ำตอบ
ของคำ� ถามประเภทน้ี
1. b. Did Bill come?
c. Yes, Bill (he) came./No, Bill (he) didn’t come.
d. Yes, he did./No, he didn’t.