Page 19 - ภาษาอังกฤษสำหรับครูสอนภาษา

การศกึ ษาเร่ืองประโยค 7-9

2. b. Do the poor have to work hard?
c. Y es, the poor (they) have to work hard./No, the poor (they) don’t have

to work hard.
d. Yes, they do./No, they don’t.
3. b. Can the little girl who lives next door sing beautifully?
c. Yes, the little girl who lives next door (she) can sing beautifully./
No, the little girl who lives next door (she) can’t sing beautifully.
d. Yes, she can./No, she can’t.
4. b. Did the news that he was kidnapped shock his parents?
c. Yes, the news that he was kidnapped (it) shocked his parents./
No, the news that he was kidnapped (it) did not shock his parents.
d. Yes, it did./No, it didn’t.
ในการตอบคำ� ถามประเภทนี้ ค�ำตอบอาจจะเป็นแบบ 1. c.–4. c. คอื เริ่มด้วย Yes/no แล้ว
ตามดว้ ยประโยคแบบ 1–4 หรอื 1. a.–4. a. หรอื เปน็ ประโยคสน้ั ๆ ประกอบดว้ ยสรรพนามและกรยิ า
ชว่ ยในรปู ทเ่ี หมาะสม (1. d.–4. d.) หากเราไดย้ นิ คำ� ตอบโดยไมไ่ ดย้ นิ คำ� ถาม เราจะไมร่ วู้ า่ สรรพนาม
และกริยาช่วยนั้นๆ แทนอะไร แต่ถ้าได้ยินหรือได้เห็นค�ำถามจะรู้ว่าสรรพนามแทนส่วนแรกของ
ประโยค และกรยิ าช่วยแทนส่วนทตี่ ามมา เมอ่ื เปน็ เช่นน้ี เราอาจกลา่ วไดว้ า่ ประโยคมสี ว่ นประกอบ
สองส่วน สว่ นทอี่ ยหู่ นา้ กรยิ าเปน็ สว่ นที่หน่งึ เรยี กว่าภาคประธาน (subject) และกริยากบั คำ� ทต่ี าม
มาเป็นส่วนที่สอง เรียกว่าภาคแสดง (predicate)
แม้ประโยคส่วนใหญ่ในภาษาอังกฤษจะแบ่งออกได้เป็นสองส่วนเช่นนี้ก็ตาม แต่มีประโยค
บางประเภททีไ่ ม่มีภาคประธานหรอื ภาคแสดงปรากฏใหเ้ ห็นชัดเจน เชน่
5. Let’s go to the library.
6. Buy some rice and a pound of sugar.
7. Please mail this letter for me.
8. What a lovely dress!
9. How funny!
10. What a pity!
ประโยคเหลา่ นจี้ ะถอื วา่ เปน็ ขอ้ มลู ทข่ี ดั แยง้ กบั ขอ้ สรปุ ขา้ งตน้ หรอื ไม่ ถา้ เราพจิ ารณาประโยค
5.–10. ในแง่ของการส่ือสาร จะเห็นวา่ เป็นประโยคที่ใชเ้ พอ่ื ชักชวน ออกคำ� สงั่ หรอื ขอรอ้ ง (5.–7.)
ประโยคประเภทนไ้ี มม่ ปี ระธานปรากฏ สว่ น 8.–10. เปน็ ประโยคทแ่ี สดงความรสู้ กึ เชน่ พอใจ แปลกใจ
หรือเสียใจ ประกอบด้วยกลุ่มค�ำ ไม่มีประธานและกริยา เราอาจตั้งสมมติฐานว่าองค์ประกอบ