Page 30 - การวิจัยเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
P. 30
14-20
3. การเขียนสมมติฐานการวิจัย มีดังน้ี (1) ควรเขียนให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การวิจัยและ
เขียนเป็นข้อ ๆ ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ และ (2) มีเกณฑ์การยอมรับสมมติฐาน ซ่ึงอาจมีค่าตัวเลขประกอบ
4. การเขียนขอบเขตการวิจัย มีดังนี้ (1) ควรมีให้ครบทั้ง 6 องค์ประกอบ คือ รูปแบบการวิจัย
ประเภทและกลุ่มตัวอย่างการวิจัย ขอบข่ายเนื้อหา เคร่ืองมือการวิจัย ตัวแปรการวิจัย และระยะเวลาการวิจัย
(2) การเขียนรูปแบบการวิจัยเพียงแต่ระบุว่าเป็นการวิจัยและพัฒนา (3) การเขียนประชากรการวิจัย คือใคร
อยู่ที่ใด มีจ�ำนวนเท่าใด ส่วนกลุ่มตัวอย่าง คือใคร อยู่ที่ใด มีจ�ำนวนเท่าใด ได้มาอย่างไร มีข้ันตอนที่ได้มา
ของกลุ่มตัวอย่าง (4) การเขียนขอบข่ายเน้ือหาการวิจัยควรเขียนให้ครอบคลุมว่า เน้ือหาท่ีใช้อยู่ในกลุ่มสาระ
การเรียนรู้ หรือรายวิชาใด พัฒนามาจากหลักสูตรใด ปีท่ีใช้หลักสูตร เน้ือหานี้อยู่ในหน่วยท่ีเท่าใด ชื่อหน่วย
อะไร และประกอบด้วยหัวเร่ืองอะไรเขียนให้ชัดเจน (5) การเขียนเคร่ืองมือการวิจัย มักใช้ 2 ประเภท คือ
เครอื่ งมือท่เี ป็นต้นแบบชน้ิ งาน ควรยดึ ระบบหรอื ยดึ ทฤษฎขี องใครมาสร้างเปน็ ตน้ แบบชิ้นงาน และเครือ่ งมอื
ประเมินผลกระทบ คือ แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (6) การเขียนตัวแปรการวิจัยให้ครอบคลุม
ตัวแปรต้นท่ีท�ำให้เป็นเหตุของเรื่อง และตัวแปรตามท่ีเป็นผลเกิดจากตัวแปรต้น และ (7) การเขียนระยะเวลา
การวิจัย นับต้ังแต่ท�ำการวิจัยจนจบสิ้นสุดเม่ือเขียนรายงานการวิจัย
5. การเขียนนิยามศัพท์หรือการเขียนนิยามศัพท์เฉพาะ มีดังน้ี (1) ควรเขียนให้ครอบคลุมชื่องาน
วจิ ยั เครอ่ื งมอื การวจิ ยั และตวั แปรทศ่ี กึ ษา (2) ควรเขยี นขอ้ ความสนั้ มคี �ำส�ำคญั ทง้ั นยิ ามเชงิ ทฤษฎแี ละนยิ าม
ปฏิบัติการ (3) ไม่ควรมีค�ำที่เป็นนิยามศัพท์มาก (4) ไม่นิยามศัพท์ทับศัพท์ที่นิยาม (5) จัดล�ำดับค�ำที่เป็น
นิยามศัพท์ และ (6) ภาษาที่เขียนแล้วเข้าใจง่ายและชัดเจน
6. การเขียนประโยชน์ท่ีได้รับ เขียนตามแนวทาง APAI
A – Academic Advancement คือ การสร้างความก้าวหน้าหรือขยายองค์ความรู้และ
วิชาการให้พัฒนาเพิ่มพูนย่ิงข้ึน
P – Problem Solwing คือ สามารถแก้ปัญหาทางการศึกษาและได้เทคนิคใหม่
A – Application คือ ประยุกต์วิชาการแขนงต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์ทางการศึกษา และ
I – Innovations คือ ผลิตงานต้นแบบนวัตกรรมทางการศึกษา การเขียนประโยชน์ท่ีได้รับ
มีดังน้ี (1) ควรเขียนให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การวิจัย และความเป็นมาและความส�ำคัญของปัญหา และ
(2) ควรเขียนเป็นข้อ ๆ มี 4 แนวทางเรียกว่า APAI
(โปรดอ่านเน้ือหาสาระโดยละเอียดในประมวลสาระชดุ วิชาหน่วยที่ 14 ตอนท่ี 14.2 เร่ืองท่ี 14.2.1)