Page 30 - โลกทัศน์ไทย
P. 30

9-20 โลกทัศนไ์ ทย

ม้อื สดุ ทา้ ยของพระเยซคู รสิ ต์ ในความหมายน้ี การมาร่วมพธิ ีบูชามสิ ซาของครสิ ตชนในวนั อาทิตย์ จึงเปน็
การสืบทอดความหมายของรหสั ธรรมปสั กาในชวี ิตนนั่ เอง

       4) 	วนั สมโภชนกั บญุ (บางครงั้ เรยี กวนั ฉลองนกั บญุ ) มเี ฉพาะในนกิ ายคาทอลกิ ซงึ่ เชอ่ื วา่ คนบางคน
ได้บ�ำเพ็ญคุณงามความดีพิเศษ หรือได้รับพระพรพิเศษให้สามารถสร้างสิ่งที่มีคุณค่าแก่คริสตจักรเหนือ
กวา่ คนทวั่ ไป เมอื่ สนิ้ ชวี ติ จะไดร้ บั การแตง่ ตง้ั เปน็ นกั บญุ (saint) เพอื่ เปน็ แบบอยา่ งสำ� หรบั การใชช้ วี ติ ของ
คริสตชนในยคุ ตอ่ มา

       ดังน้ันก่อนรับศีลล้างบาป ผู้เตรียมเป็นคริสตชนต้องหานักบุญท่ีตนชอบและใช้ช่ือนักบุญน้ันเป็น
“ศาสนนาม” (Christian name) ครสิ ตชนเชอื่ วา่ วญิ ญาณของนกั บญุ จะคอยชว่ ยเหลอื และชนี้ ำ� การใชช้ วี ติ
ทถี่ ูกตอ้ งแกเ่ ขา

       ปฏทิ นิ ทางศาสนาได้กำ� หนดวันสมโภชนักบญุ แตล่ ะองค์ไว้ตลอดทั้งปี เม่อื ถงึ วนั ฉลองนักบุญของ
ตน คริสตชนกจ็ ะท�ำกจิ พเิ ศษเพอื่ เป็นการระลกึ ถึงนกั บุญองค์น้นั ๆ

       5) 	วันสมโภชพระเยซูคริสต์เสด็จข้ึนสวรรค์ เป็นการฉลองเพ่ือระลึกถึงเหตุการณ์ส�ำคัญ ดังที่ได้
กลา่ วมาแลว้ ขา้ งตน้ ในประเทศทถี่ อื ศาสนาครสิ ตเ์ ปน็ ศาสนาหลกั วนั นถี้ อื เปน็ วนั หยดุ เพอื่ ใหป้ ระชาชนไป
วดั ร่วมศาสนพธิ ี แตส่ ำ� หรบั ประเทศไทยได้เลอื่ นการฉลองไปเปน็ วันอาทิตย์ทถ่ี ดั จากวันสมโภชนน้ั ไป

       6) 	วนั สมโภชพระจติ เจา้ เปน็ การฉลองเพอ่ื ระลกึ ถงึ การเสดจ็ มาของพระจติ จะตรงกบั วนั อาทติ ย์
สัปดาหท์ ี่ 7 หลังจากวนั ฉลองปัสกา

2.	 ศีลศักดิ์สิทธิ์ (Sacrament)

       ทเี่ รยี กวา่ “ศลี ศกั ดส์ิ ทิ ธ”์ิ เพราะศลี ตา่ งๆ มไิ ดก้ ำ� หนดขน้ึ โดยมนษุ ย์ หากแตเ่ ปน็ พระประสงคข์ อง
พระเจา้ ทจี่ ะชว่ ยใหค้ รสิ ตชนทม่ี คี วามเชอ่ื ในพระเจา้ ไดด้ �ำเนนิ ชวี ติ อยา่ งถกู ตอ้ ง ศลี ศกั ดสิ์ ทิ ธจิ์ งึ เปน็ ทงั้ เครอ่ื ง
เตือนสติและเปน็ ก�ำลังใจทผี่ ู้มคี วามเชื่อได้รบั ดังน้นั ผ้ทู ่จี ะรับศีลศักดิ์สทิ ธท์ิ ุกชนดิ จะตอ้ งเป็นผมู้ คี วามเช่อื
มคี วามขา้ ใจในความหมายของศลี ตา่ งๆ และมกี ารเตรยี มพรอ้ มทง้ั รา่ งกายและจติ ใจทจ่ี ะรบั ศลี ประเภทนน้ั ๆ

       คริสตจกั รคาทอลิกกำ� หนดศีลศักดส์ิ ทิ ธ์ไิ ว้ 7 อย่าง (ในขณะท่นี กิ ายโปรเตสแตนต์กำ� หนดไว้เพียง
2 อยา่ งเท่านนั้ ) คอื

       1) 	ศีลล้างบาป (baptism) นิกายโปรเตสแตนตเ์ รียก การลา้ งหรอื ศีลจุ่ม เปน็ ศลี แรกสดุ ของการ
เป็นคริสตชน ผู้รับศีลอาจจะเป็นเด็ก เยาวชน หรือผู้ใหญ่ก็ได้ แต่ต้องเป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจศาสนา
คริสต์ และรู้จักการสวดภาวนาในระดับหนึ่ง ในขั้นน้ีเรียกว่า ผู้เตรียมตัวเป็นคริสตชน (catechumens)
พิธีโปรดศีลล้างบาปจะกระท�ำโดยพระสังฆราช (bishop) หรือพระสงฆ์ที่ได้รับอนุญาตจากพระสังฆราช
แลว้ โดยปกติจะมกี ารโปรดศลี ลา้ งบาปปีละ 2 คร้ัง คอื ในคนื วันฉลองปัสกา และในคนื วนั คริสต์มาส

       2) 	 ศลี กำ� ลงั (confirmation) ในกรณที ผ่ี รู้ บั ศลี ลา้ งบาปเปน็ เดก็ เมอ่ื เตบิ โตขนึ้ และเขา้ ใจชวี ติ ครสิ ตชน
มากข้ึน พระสงฆ์จะโปรดศีลก�ำลัง ซึ่งมีความหมายว่าเขาเป็นคริสตชนที่บรรลุวุฒิภาวะแล้ว ในกรณีท่ี
ผู้รบั ศีลลา้ งบาปเป็นผ้ใู หญ่ก็อาจจะไดร้ บั ศลี กำ� ลังด้วยเลยในคราวเดียวกนั กบั การรบั ศลี ล้างบาป

       3) 	ศลี มหาสนทิ (communion) นกิ ายโปรเตสแตนตเ์ รยี ก พธิ มี หาสนทิ เปน็ การระลกึ ถงึ การเลยี้ ง
อาหารคำ่� มอ้ื สดุ ทา้ ยของพระเยซคู รสิ ตใ์ นคนื กอ่ นทจี่ ะทรงถกู จบั พระเยซคู รสิ ตท์ รงขอบพระคณุ พระเจา้ และ
ทรงถวายขนมปังและเหล้าองุ่นเป็นยัญบูชา เมื่อเปรียบเทียบกับการยอมสิ้นพระชนม์เพ่ือให้แผนการแห่ง
   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35