Page 76 - โลกทัศน์ไทย
P. 76
9-66 โลกทัศนไ์ ทย
การเสวนาระหวา่ งศาสนกิ ชนทนี่ บั ถอื ศาสนาแตกตา่ งกนั เปน็ การนำ� เอาความเชอื่ ทยี่ นื ยนั โดยการ
ปฏบิ ตั ใิ นชวี ติ จรงิ มาแบง่ ปนั และแลกเปลย่ี นกนั เพอ่ื กอ่ ใหเ้ กดิ การ “กลบั ใจ” ซง่ึ เปน็ การยกระดบั คณุ ภาพ
ชวี ติ ให้สงู ขึ้นเรื่อยๆ จนบรรลุความสมบูรณต์ ามความเชือ่ ของตน คริสตจกั รได้สอนว่าการเสียสละและการ
กลบั ใจควรเรม่ิ ต้นจากตัวของเราเองก่อน (กอ่ นท่จี ะไปเรยี กรอ้ งจากคนอ่ืน)
สมเดจ็ พระสนั ตะปาปาทรงตง้ั สมณสภาขนึ้ เพอื่ รบั ผดิ ชอบงานดา้ นศาสนสมั พนั ธโ์ ดยใหพ้ ระคารด์ ินัล
องคห์ น่ึงเป็นประธาน และใหม้ ีกรรมการประกอบดว้ ยพระคาร์ดนิ ัลและพระสังฆราชจำ� นวนหน่งึ เพื่อคอย
กระต้นุ ใหบ้ รรดาประเทศตา่ งๆ ทมี่ ีครสิ ตชนจัดตงั้ คณะกรรมาธิการศาสนสัมพนั ธ์ข้ึน ตามเจตนารมณแ์ ห่ง
สภาสงั คายนา
ในปี ค.ศ. 1982 คณะกรรมาธกิ ารได้ตัง้ ศูนย์ค้นคว้าศาสนาและวัฒนธรรมขน้ึ เพอ่ื ใช้เป็นศนู ย์ใน
การปฏบิ ตั ิงาน ทำ� ให้ลักษณะของงานท่ที ำ� แยกเปน็ 2 สว่ น คือ
1) ศูนย์ค้นคว้าศาสนาและวัฒนธรรม ประกอบดว้ ยคณะผบู้ ริหารและเจา้ หน้าทขี่ องศนู ยฯ์ และ
คณะท่ีปรึกษากิจกรรมโดยมากเป็นการจัดการอบรมหลักสูตรด้านศาสนาและวัฒนธรรมแก่บุคคลท่ีสนใจ
นอกจากนี้ ยงั มกี ารประชุมเพ่อื แลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ กับศาสนาอืน่ ๆ ดว้ ย
2) คณะกรรมการอ�ำนวยการศาสนสัมพันธ์ เป็นผู้รับผิดชอบงานด้านศาสนสัมพันธ์ทั้งหมด
ประกอบดว้ ย คณะกรรมการบริหารศาสนสมั พันธ์และคณะอนุกรรมการอกี 5 คณะ คือ
- คณะอนกุ รรมการแผนกอบรม
- คณะอนุกรรมการแผนกศาสนกิ สมั พันธ์
- คณะอนุกรรมการแผนกสัมมนา
- คณะอนุกรรมการแผนกสรา้ งวิทยากรฆราวาส
- คณะอนกุ รรมการแผนกจิตภาวนา
การด�ำเนินงานอื่นๆ นอกเหนือจากการอบรมความรู้ด้านศาสนาและวัฒนธรรมแล้ว ยังมีการ
แลกเปลยี่ นวธิ กี ารฝกึ สมาธิ การแปลหนงั สอื ทเี่ ปรยี บเทยี บศาสนาพทุ ธและศาสนาครสิ ต์ เชน่ เซน็ และพระคมั ภรี ์
(เขียนโดย Kakichi Kacowaki) และดั่งกระจกเงา (เขียนโดย William Johnston) นอกจากน้ี ยงั มี
โครงการต้ังส�ำนักฝึกจิตภาวนา ซ่ึงกำ� ลงั ด�ำเนินการอยู่
กิจกรรม 9.3.1
กิจกรรมการเผยแผ่ศานาคริสต์มี 2 ลักษณะ (หรือเรียกว่ามี 2 มิติ) คือ การประกาศหลัก-
ครสิ ตธรรมและการอภบิ าล ทา่ นพจิ ารณาวา่ ลกั ษณะใดทมี่ ผี ลกระทบตอ่ สงั คมมากทสี่ ดุ ใหย้ กตวั อยา่ งดว้ ย
แนวตอบกิจกรรม 9.3.1
ลักษณะของการประกาศหลักคริสตธรรมซึ่งแสดงออกในรูปแบบต่างๆ เพื่อสนองตอบต่อความ
ต้องการของคนในสังคม เพ่ือเป็นการยืนยันถึงความเช่ือความศรัทธาที่มีต่อพระเจ้า และความรักท่ีมีต่อ
เพอ่ื นมนษุ ย์ กจิ กรรมในลกั ษณะนี้ เชน่ หนว่ ยงานในสงั กดั กรรมาธกิ ารฝา่ ยการศกึ ษา และกรรมาธกิ ารฝา่ ยสงั คม