Page 72 - โลกทัศน์ไทย
P. 72
9-62 โลกทศั นไ์ ทย
ในปี ค.ศ. 1974 ได้สนับสนุนให้อีก 9 สังฆมณฑลตั้งศูนย์สังคมพัฒนา เพ่ือกระตุ้นและส่งเสริม
กิจกรรมของชมุ ชนในระดบั ต่างๆ จนถงึ ปี ค.ศ. 1977 จงึ ได้หนั มาเนน้ การสง่ เสรมิ และฝึกผู้นำ� ซึ่งเปน็ แนว
ความคดิ ชว่ งท่สี อง
2) ช่วงแห่งการส่งเสริมและฝึกผู้น�ำชุมชน (ค.ศ. 1978-1982) เป็นการเสริมการท�ำงานตอ่ จาก
ช่วงแห่งการปลุกจิตส�ำนึก เพราะจากการท�ำงานพบว่า อุปสรรคของการพัฒนาประชาชนคือ โครงสร้าง
ของเศรษฐกจิ และสังคม จงึ เริม่ การจดั ทำ� โครงการพฒั นาต่างๆ มกี ารสัมมนาเรอื่ งระบบการประสานงานท่ี
มีประสิทธิภาพ และการฝึกอบรมผู้น�ำชุมชนท่ีเป็นชาวบ้านส�ำหรับการพัฒนาตนเองและการสนับสนุนให้
ศูนยส์ ังคมพฒั นาต่างๆ เข้มแขง็ มากข้ึน
จนถึงปี ค.ศ. 1982 มีการปรับปรุงการท�ำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยการกระจายอ�ำนาจ
การบรหิ าร และการตดั สนิ ใจไปสศู่ นู ยส์ งั คมพฒั นาตา่ งๆ อาจเรยี กวา่ มนี โยบายเนน้ ใหศ้ นู ยส์ งั คมพฒั นาตา่ งๆ
เปน็ ตวั ของตวั เองในการทำ� งานและกเ็ รมิ่ เนน้ บทบาทขององคก์ รสมาชกิ อน่ื ทน่ี อกเหนอื จากศนู ยส์ งั คมพฒั นา
3) ช่วงแห่งการศึกษา วัฒนธรรมชุมชน (ค.ศ. 1982-1984) เริม่ ศึกษาถงึ คณุ ค่าและศกั ยภาพใน
การพฒั นาตนเองของประชาชน ดงั นน้ั ลกั ษณะของกจิ กรรมคอื การปลกุ ใหช้ าวบา้ นมองเหน็ ปญั หาทเี่ ผชญิ อยู่
จากน้นั กร็ ะดมความคดิ และพลงั สร้างสรรคข์ องชาวบ้านมาใชเ้ พ่อื พัฒนาตนเอง นอกจากน้ียังได้เร่ิมศึกษา
คุณคา่ ต่างๆ ของวฒั นธรรมที่ด�ำรงอย่ใู นชุมชนเพอื่ หาด้านดีงามในวฒั นธรรมนน้ั มาใชใ้ นการพัฒนาด้วย
4) ช่วงแห่งการพัฒนาด้วยแนววัฒนธรรมชุมชน (ค.ศ. 1984 เป็นต้นมา) เป็นการสรุปและ
แบง่ ปนั ประสบการณใ์ นการทำ� งาน ทำ� ใหม้ องเหน็ ความสำ� คญั ของการทำ� งานรว่ มกบั ประชาชน มกี ารคน้ หา
สง่ เสรมิ สนบั สนนุ และพฒั นาคณุ คา่ ทางศาสนาและวฒั นธรรมทดี่ งี ามและคน้ พบอกี วา่ นกั พฒั นาเองกต็ อ้ ง
เปล่ียนแปลงชีวิตของตนเองในกระบวนการน้ีด้วย จากนั้นก็ระดมพลังสร้างสรรค์เพื่อการพึ่งตนเอง โดย
อาศยั กิจกรรมตา่ งๆ และไดเ้ ขา้ สู่นโยบาย 5 ปขี องการ “ชว่ ยเหลือเกอื้ กลู กัน” ตงั้ แต่ปี ค.ศ. 1987
ดังน้ันกิจกรรมต่างๆ ของสภาคาทอลิกแห่งประเทศไทยเพ่ือการพัฒนาท่ีมีระดับท่ัวประเทศจะมี
ลักษณะของโครงการต่างๆ แปรเปล่ียนไปตามนโยบายที่มีเป้าหมายท่ีเน้นแตกต่างกันไปตามช่วงต่างๆ
ดังได้กลา่ วมา
4. ส�ำนักคาทอลิกสงเคราะห์ผู้ประสบภัยและผู้ล้ีภัย (โคเออร์)
เปน็ หนว่ ยงานทเี่ พง่ิ กอ่ ตงั้ ขนึ้ โดยมตขิ องสภาพระสงั ฆราชคาทอลกิ แหง่ ประเทศไทย เมอื่ วนั ท่ี 20
ธันวาคม ค.ศ. 1978 มีพระคาร์ดินัลมีชัย กิจบุญชูเป็นประธาน และมีบาทหลวงบุญเลิศ ธาราฉัตรเป็น
ผ้อู �ำนวยการ
วตั ถปุ ระสงคข์ องการกอ่ ตง้ั คอื การใหค้ วามชว่ ยเหลอื แกผ่ ปู้ ระสบภยั ธรรมชาติ ผลู้ ภ้ี ยั และคนไทย
ท่ีได้รับผลกระทบจากผู้ล้ีภัย โดยพิจารณาจากแง่มุมด้านมนุษยธรรม ไม่ค�ำนึงถึงเชื้อชาติ ศาสนา และ
อุดมการณท์ างการเมอื ง
การชว่ ยเหลอื โดยมากมกั เปน็ ในรปู ของการใหส้ งิ่ ของเครอื่ งใช้ อาหารและยารกั ษาโรค และยงั อาจ
จะเป็นโครงการฝกึ อาชพี การสอนภาษา เป็นต้น กิจกรรมได้แบง่ เปน็ 4 ด้าน ตามลักษณะของผู้รับความ
ช่วยเหลือ คอื