Page 67 - โลกทัศน์ไทย
P. 67
ศาสนาครสิ ต์ในสงั คมไทย 9-57
“ดูก่อนพี่น้องของข้าพเจ้า แม้ผู้ใดจะว่าตนมีความเช่ือ แต่ไม่ประพฤติตามจะได้ประโยชน์อะไร
ความเชอื่ ของเขาจะชว่ ยใหเ้ ขารอดไดห้ รอื ถา้ พนี่ อ้ งชายหญงิ คนใดขดั สนเครอื่ งนงุ่ หม่ และอาหารประจำ� วนั
และมีคนใดในพวกท่านกล่าวแกเ่ ขาวา่ ‘เชิญไปเปน็ สุขเถิด ขอให้อบอนุ่ และอ่ิมเถิด’ และไมใ่ ห้ส่ิงของทเี่ ขา
ขดั สนน้นั (คํากล่าวเชน่ น้ัน) จะเป็นประโยชนอ์ ะไร ความเชอื่ กเ็ ชน่ เดยี วกนั ถา้ ไมป่ ระพฤตติ ามกไ็ รผ้ ล แต่
บางคนจะกลา่ ววา่ ‘คนหนงึ่ มคี วามเชอื่ แตอ่ กี คนหนง่ึ มกี ารประพฤต’ิ จงแสดงใหข้ า้ พเจา้ เหน็ ความเชอ่ื ของ
ทา่ นทีไ่ มม่ ีการประพฤติตาม แต่ข้าพเจ้าจะแสดงใหท้ ่านเหน็ ความเชือ่ ดว้ ยการประพฤตติ ามความเชอื่ ของ
ข้าพเจ้า ทา่ นทงั้ หลายเห็นแลว้ วา่ ความเชอื่ น้ันจะบรบิ รู ณ์ดว้ ยการประพฤติ และผ้ใู ดจะเปน็ คนชอบธรรม
ได้กเ็ นอ่ื งดว้ ยการประพฤตขิ องเขามใิ ชด่ ว้ ยความเชือ่ เพยี งอย่างเดยี ว”
ดงั นน้ั ภาพของบรรดาธรรมทตู ทอ่ี อกไปประกาศศาสนาพรอ้ มกบั การรบั ใชส้ งั คมในรปู แบบตา่ งๆ
จึงมีเบื้องหลังความเป็นมาจากค�ำสอนของพระเยซูคริสต์น้ีเอง และจากความเข้าใจในเรื่องน้ี เราจะมา
พิจารณาบทบาทขององคก์ รศาสนาครสิ ต์ในกระบวนการประกาศศาสนาของนิกายท้ังสอง
จากทไ่ี ดก้ ลา่ วมา จะเหน็ ไดว้ า่ ศาสนาครสิ ตใ์ นฐานะทเ่ี ปน็ ระบบความเชอื่ แบบหนง่ึ มแี กน่ ทเ่ี รยี กวา่
หลักคริสตธรรม (หรืออาจเรียกว่าหลักธรรม) ท่ีได้รับการสืบทอดและเผยแผ่ไปสู่ประเทศต่างๆ และใน
กระบวนการนน้ั เอง หลกั ธรรมนนั้ ไดร้ บั “รปู แบบ” ของการถา่ ยทอด ซงึ่ เปน็ ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งสาวกของ
พระเยซูครสิ ต์ (คือ สมาชกิ ของคริสตจักร) และตัวสงั คมท่ีศาสนาคริสตไ์ ด้เผยแผ่ไปถงึ ตวั “รูปแบบ” น้ี
ไดร้ บั การปรบั ปรงุ และการแกไ้ ขใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพความเปน็ จรงิ ทางสงั คมทมี่ พี ฒั นาการอยตู่ ลอดเวลา
ลกั ษณะ 2 ประการน้ี เราอาจพจิ ารณาวา่ เมอื่ สภาพความเปน็ จรงิ ทางสงั คมเปลยี่ นแปลงไป “หลกั ครสิ ต-
ธรรม” ก็จะได้รับการตีความโดยคริสตจักร เพื่อให้ระบบความเช่ือสามารถอธิบายและให้ความหมายกับ
แงม่ มุ ใหมๆ่ ของชวี ติ ทงั้ ในดา้ นปจั เจกและดา้ นสงั คมแกค่ นทกุ คนได้ การตคี วามนเี้ องไดน้ �ำไปสกู่ ารกำ� หนด
“รูปแบบ” ของกิจการต่างๆ ของการเผยแผศ่ าสนา
ส�ำหรับศาสนาคริสต์ การเผยแผ่ศาสนาจะมีลักษณะ 2 มิติ คือ ในมิติด้านปริมาณ การเผยแผ่
ศาสนา คือ การประกาศหลักคริสตธรรม (Evangelization) แก่คนต่างศาสนาเพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความ
เข้าใจ และความเลื่อมใสในศาสนาคริสต์ จนถึงชั้น “กลับใจ” มาเป็นคริสตชน ในมิติด้านคุณภาพ การ
เผยแผศ่ าสนา คอื การรักษาและการส่งเสริมความเชื่อความศรัทธาทคี่ รสิ ตชนมอี ยู่ ใหค้ วามเชอ่ื และความ
ศรทั ธานนั้ มรี ากฐานทมี่ น่ั คง จนสามารถดำ� เนนิ ชวี ติ ไดอ้ ยา่ งสอดคลอ้ งกบั “หลกั ครสิ ตธรรม” อยา่ งสมบรู ณ์
ในลักษณะนอี้ าจเรยี กว่าเป็นงานดา้ นการอภิบาล (Pastoral Aspect)
อย่างไรก็ดี การแบ่งในลักษณะน้ีเป็นเพียงการพยายามแยกเพ่ือให้เข้าใจได้ง่ายข้ึน เพื่อน�ำมาใช้
ในการแยกประเภทของกิจการต่างๆ ของคริสตจักรให้สะดวกมากข้ึนเท่าน้ัน คือ กิจการท่ีมีลักษณะของ
การประกาศ “หลกั ครสิ ตธรรม” มาก (แมจ้ ะมรี ปู แบบทห่ี ลากหลายจนมลี กั ษณะเปน็ งานดา้ นพฒั นาสงั คม
ก็ตาม) จะถูกแยกเปน็ ประเภทหน่ึง ส่วนกจิ การท่ีมลี กั ษณะของการอภิบาลมากกจ็ ะถูกจัดเปน็ อกี ประเภท
หน่ึง แตใ่ นความเปน็ จริงแลว้ ลกั ษณะทั้งสองดา้ นนปี้ รากฏอยใู่ นทกุ ๆ กจิ การ เป็นแต่เพียงมีความมาก-
นอ้ ยของแต่ละลักษณะเท่านนั้
เมอื่ พจิ ารณาตามทกี่ ลา่ วมานี้ กจิ การตา่ งๆ กส็ ามารถแยกไดเ้ ปน็ 2 ประเภท และเพอ่ื ความสะดวก
เราจะพจิ ารณาศาสนาคริสตแ์ ตล่ ะนิกายแยกจากกนั