Page 33 - ประวัติศาสตร์การเมืองและเศรษฐกิจไทย
P. 33

การเมืองและเศรษฐกจิ ในสมัยรฐั บาลพลเอกประยุทธ์ จนั ทรโ์ อชา 15-23
แห่งชาติ จึงมีค�ำส่ังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ท่ี 2/2560 เร่ือง การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ
พเิ ศษภาคตะวนั ออก

       คำ� สง่ั ดงั กลา่ วไดใ้ หอ้ ำ� นาจแกค่ ณะกรรมการนโยบายการพฒั นาระเบยี งเศรษฐกจิ พเิ ศษภาคตะวนั ออก
ไวอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง ในกรณที ป่ี รากฏวา่ การดำ� เนนิ การในเรอื่ งใด ไมเ่ ปน็ ไปตามนโยบายหรอื แผนการพฒั นา
พ้ืนที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือมีปัญหา อุปสรรค หรือข้อขัดข้องอ่ืนใดเกิดข้ึน ให้คณะ
กรรมการบรหิ ารการพฒั นาระเบยี งเศรษฐกจิ พเิ ศษภาคตะวนั ออก กรศ. รายงานตอ่ คณะกรรมการนโยบาย
เพ่ือวินิจฉัยชี้ขาดโดยไม่ชักช้า และเม่ือคณะกรรมการนโยบายวินิจฉัยชี้ขาดเป็นประการใดแล้ว และให้
หน่วยงานของรัฐท่ีเก่ียวข้องมีหน้าท่ีต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามคําวินิจฉัยชี้ขาดนั้น แล้วให้ สกรศ. เสนอ
คณะรัฐมนตรเี พ่อื ทราบด้วย

       นอกจากน้ี ในเขตส่งเสริม ถ้ากฎหมายก�ำหนดให้ผู้ด�ำเนินการหรือผู้กระท�ำในเร่ืองใดต้องได้รับ
อนมุ ตั ิ อนุญาต ใบอนุญาต หรือความเห็นชอบจากหนว่ ยงานของรัฐหรอื คณะกรรมการตามกฎหมายนัน้
หรอื ตอ้ งจดทะเบยี นหรอื แจง้ ตอ่ หนว่ ยงานของรฐั หรอื คณะกรรมการตามกฎหมายนน้ั กอ่ น ใหอ้ ำ� นาจในการ
อนมุ ตั ิ อนญุ าต ออกใบอนุญาต ให้ความเห็นชอบ รบั จดทะเบยี น หรอื รับแจง้ ตามกฎหมายว่าด้วยการน้นั
เปน็ หนา้ ทแี่ ละอำ� นาจของเลขาธกิ าร และใหเ้ ลขาธกิ ารมหี นา้ ทแ่ี ละอำ� นาจบงั คบั การใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมาย
น้ันได้ดว้ ย

       โดยสรปุ เศรษฐกิจในสมยั รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จนั ทร์โอชา มุ่งเนน้ การขับเคล่ือนด้วยนโยบาย
ของภาครฐั เปน็ สำ� คญั อยา่ งไรกต็ าม การมสี ว่ นรว่ มของสงั คมกลบั กลายเปน็ ปญั หาอปุ สรรคของการขบั เคลอื่ น
เศรษฐกจิ เนอ่ื งจากรฐั บาลชดุ น้ี ไมไ่ ดม้ ที ม่ี าจากการเลอื กตงั้ จงึ ขาดกลไกและกระบวนการเชอื่ มตอ่ กบั สงั คม
และประชาชนในทางนโยบาย

กิจกรรม 15.1.2
       ลกั ษณะเศรษฐกิจในสมยั รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จนั ทรโ์ อชา เปน็ อยา่ งไร

แนวตอบกิจกรรม 15.1.2
       เศรษฐกจิ ในสมยั รฐั บาลพลเอกประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชา มงุ่ เนน้ การขบั เคลอ่ื นดว้ ยนโยบายของภาครฐั

เปน็ สำ� คญั อยา่ งไรกต็ าม การมสี ว่ นรว่ มของสงั คมกลบั กลายเปน็ ปญั หาอปุ สรรคของการขบั เคลอ่ื นเศรษฐกจิ
เนื่องจากรัฐบาลชุดน้ีไม่ได้มีที่มาจากการเลือกต้ังจึงขาดกลไกและกระบวนการเช่ือมต่อกับสังคมและ
ประชาชนในทางนโยบาย
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38