Page 36 - เศรษฐศาสตร์อุตสาหกรรม เทคโนโลยี และความจำเริญทางเศรษฐกิจ
P. 36
2-24 เศรษฐศาสตรอ์ ุตสาหกรรม เทคโนโลยี และความจ�ำ เรญิ ทางเศรษฐกจิ
ตอนท่ี 2.2
ทฤษฎีความจ�ำเริญทางเศรษฐกิจยุคคลาสสิก
โปรดอ่านหัวเรือ่ ง แนวคดิ และวตั ถปุ ระสงคข์ องตอนที่ 2.2 แล้วจงึ ศกึ ษารายละเอยี ดตอ่ ไป
หัวเร่ือง
2.2.1 แนวคดิ ของความจ�ำเริญทางเศรษฐกจิ ยุคคลาสสิก
2.2.2 แนวคดิ ของอดัม สมิธ เกยี่ วกบั การแข่งขนั และความจำ� เริญทางเศรษฐกจิ
2.2.3 แนวคิดของมัลทสั เก่ียวกับทฤษฎปี ระชากรและความจำ� เริญทางเศรษฐกิจ
2.2.4 แนวคดิ ของรคิ ารโ์ ดเกย่ี วกบั คา่ เชา่ ทางเศรษฐกจิ และความไดเ้ ปรยี บเชงิ เปรยี บเทยี บ
2.2.5 แนวคิดของคาร์ล มาร์กซ์ เกี่ยวกบั โครงสร้างเศรษฐกจิ
แนวคิด
1. นกั เศรษฐศาสตรใ์ นยคุ คลาสสกิ เหน็ วา่ การขยายตวั ทางเศรษฐกจิ ของประเทศทใ่ี ชร้ ะบบ
เศรษฐกจิ แบบทนุ นยิ ม เกดิ จากการแขง่ ขนั กนั ระหวา่ งอตั ราความกา้ วหนา้ ทางวทิ ยาการ
กบั อตั ราการเพม่ิ ของประชากร ถา้ ประชากรเพมิ่ ในอตั ราสงู กวา่ ความกา้ วหนา้ ทางวทิ ยาการ
ค่าจ้างแรงงานจะลดต�่ำลงเรื่อยๆ จนถึงระดับพอยังชีพ ขณะเดียวกันนายทุนก็ลดการ
ลงทนุ เนอื่ งจากทด่ี นิ มรี าคาสงู และมกี ารนำ� ทด่ี นิ ทม่ี คี ณุ ภาพตำ�่ มาใช้ ทำ� ใหค้ วามจำ� เรญิ
ทางเศรษฐกิจเขา้ สูภ่ าวะชะงกั งัน
2. ตามแนวคดิ ของอดมั สมิธ กระบวนการขยายตวั ทางเศรษฐกิจจะเกิดขน้ึ ได้เม่ือตลาดมี
ขนาดใหญเ่ พยี งพอ มกี ารลงทนุ มกี ารแบง่ งานกนั ทำ� และเกดิ ความกา้ วหนา้ ทางวทิ ยาการ
รายไดข้ ยายตวั เพมิ่ ขนึ้ แตเ่ มอื่ ถงึ ระยะหนงึ่ ซง่ึ ระบบเศรษฐกจิ มกี ารใชท้ รพั ยากรศกึ ษา
เต็มที่แล้วระบบเศรษฐกจิ จะเข้าส่ภู าวะชะงกั งัน
3. ต ามแนวคิดของมัลทัส เก่ียวกับเร่ืองการเพ่ิมประชากรจะเป็นแบบอัตราเรขาคณิต แต่
อัตราการเพ่ิมของผลิตผลการเกษตรและอาหารจะเพ่ิมในอัตราเลขคณิต ซ่ึงในไม่ช้า
ประชากรจะเพมิ่ เรว็ กวา่ การเพมิ่ ของอาหาร สง่ ผลใหร้ ายไดต้ อ่ หวั ลดลงจนกระทงั่ ตำ่� กวา่
ระดับพอยังชีพ จนน�ำไปสู่ความอดอยากและเกิดความชะงักงันในความจ�ำเริญทาง
เศรษฐกิจ
4. ตามแนวคดิ ของรคิ ารโ์ ด ไดใ้ หค้ วามสำ� คญั ของการแบง่ สรรรายไดม้ ากกวา่ ทจ่ี ะกลา่ วถงึ
ปจั จยั ทมี่ ผี ลตอ่ ความจำ� เรญิ ทางเศรษฐกจิ ซง่ึ รคิ ารโ์ ดเหน็ วา่ เมอื่ ประชากรเพม่ิ ขนึ้ การใช้
ที่ดินคุณภาพต�่ำจะมีมากขึ้น และก่อให้เกิดผลตอบแทนท่ีลดน้อยถอยลง ท�ำให้อัตรา
ก�ำไรลดลงจนท�ำให้เกดิ ความชะงักงันในความจำ� เริญทางเศรษฐกิจ