Page 38 - เศรษฐศาสตร์อุตสาหกรรม เทคโนโลยี และความจำเริญทางเศรษฐกิจ
P. 38

2-26 เศรษฐศาสตรอ์ ุตสาหกรรม เทคโนโลยี และความจ�ำ เรญิ ทางเศรษฐกจิ

                         ความน�ำ

       แนวคดิ ทางทฤษฎกี ลมุ่ คลาสสกิ (Classical Theorists) ในทน่ี จี้ ะหมายถงึ แนวคดิ ทเี่ กดิ ขนึ้ ในชว่ ง
ค.ศ. 1750–1870 นักเศรษฐศาสตร์ท่ีอยู่ในกลุ่มน้ีส่วนใหญ่จะเป็นนักเศรษฐศาสตร์ชาวอังกฤษ
นักเศรษฐศาสตรท์ ี่สำ� คัญในกลมุ่ นี้ เช่น สมิธ ริคาร์โด มัลทัส มิลล์ แมคคลู อช นกั เศรษฐศาสตรใ์ นกลุ่มนี้
ถึงแม้ว่าจะมีความคิดเห็นในเรื่องความจ�ำเริญทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกันไปบ้างก็ตาม แต่โดยรวมแล้ว
กลุม่ น้ีได้คดั คา้ นพวกพาณชิ ยนยิ ม โดยช้ีใหเ้ ห็นวา่ กฎเกณฑแ์ ละการแทรกแซงของรฐั บาลในการผลติ และ
การค้าน้ันเป็นผลเสียต่อความจ�ำเริญทางเศรษฐกิจ อันเน่ืองจากการผูกขาดและการตัดสินใจของรัฐ โดย
กลมุ่ คลาสสกิ มคี วามเชอื่ ในกฎของธรรมชาติ (Natural Law) และความมเี หตผุ ลของมนษุ ย์ กลมุ่ นจี้ งึ เชอื่ วา่
กลไกทางเศรษฐกิจสามารถด�ำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ระบบตลาดที่มีการแข่งขันอย่าง
สมบูรณ์และมีรัฐบาลเข้าไปเกี่ยวข้องน้อยที่สุด กลุ่มน้ีช้ีให้เห็นว่าผลผลิตและรายได้ของประเทศเกิดจาก
ปัจจัยการผลิตประเภทท่ีดิน แรงงานและทุน ความจ�ำเริญทางเศรษฐกิจจึงข้ึนอยู่กับการเปลี่ยนแปลงใน
ปจั จยั ดงั กลา่ วตลอดเวลา ดงั น้ันอาจสรปุ แนวความคดิ ของนักเศรษฐศาสตรก์ ลุม่ คลาสสกิ ได้ ดงั น้ี

       1. 	นักเศรษฐศาสตรก์ ลุ่มนีม้ ีความเชอ่ื ในนโยบายการคา้ เสรี โดยเหน็ ว่าการท�ำงานของตลาดเสรี
ท่มี ีการแข่งขันอยา่ งสมบรู ณ์และไมม่ ีการแทรกแซงจากรฐั บาล จะท�ำใหเ้ ศรษฐกจิ ขยายตวั

       2. 	การสะสมทนุ เป็นปจั จัยสำ� คัญย่งิ ตอ่ ความจำ� เรญิ ทางเศรษฐกจิ ส�ำหรบั การออมจะน�ำมาสูก่ าร
สะสมทุนและการลงทุนโดยนายทุน ซ่งึ จะก่อใหเ้ กดิ การผลติ และการเพิ่มของรายได้ ก�ำไรจึงเป็นแรงจูงใจ
ใหเ้ กิดการลงทุน

       3. 	เมอ่ื เกดิ การแขง่ ขนั ในการจา้ งคนทำ� งาน กำ� ไรอาจมแี นวโนม้ ลดลง และเมอื่ กำ� ไรลดลงถงึ จดุ หนง่ึ
กระบวนการสะสมทนุ จะลดลง เศรษฐกิจกจ็ ะหยดุ นิง่

       จากแนวคดิ เรอื่ งความจำ� เรญิ ทางเศรษฐกจิ และการวเิ คราะหข์ องสำ� นกั คลาสสกิ ใหค้ วามสนใจกบั
การเจริญเติบโตของประเทศมาก นอกจากน้ันยังเน้นปรากฏการณ์ในระยะยาวมากกว่าในระยะสั้น ขณะ
เดียวกันส�ำนักคลาสสิกก็ยังให้ความสนใจด้านการผลิตหรือด้านอุปทานมากกว่าด้านอุปสงค์ กล่าวคือ
แนวทางการพฒั นาประเทศเปน็ การเนน้ ความสำ� คญั ของกำ� ลงั การผลติ คอื การสะสมเงนิ ทนุ มาก โดยไมส่ นใจ
วา่ จะมอี ปุ สงคพ์ อทจ่ี ะซอื้ สนิ คา้ ทผี่ ลติ ไดห้ รอื ไม่ แมว้ า่ ทฤษฎยี งั มขี อ้ บกพรอ่ งอยบู่ า้ ง แตก่ ไ็ ดร้ บั การยกยอ่ ง
จากวงการเศรษฐศาสตรว์ า่ เปน็ รากฐานอยา่ งดสี ำ� หรบั การพฒั นาทฤษฎแี ละแนวความคดิ ทางเศรษฐศาสตร์
ใหม่ๆ ใหส้ มบูรณ์ยิ่งขึ้น

       สำ� หรบั ในตอนที่ 2.2 นจ้ี ะไดก้ ลา่ วถงึ แนวคดิ การเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกจิ ของนกั ทฤษฎกี ลมุ่ คลาสสกิ
เพื่อนกั ศึกษาจะไดเ้ ข้าใจแนวคิดของนักเศรษฐศาสตร์ท่ีส�ำคัญต่อไป
   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43