Page 46 - เศรษฐศาสตร์อุตสาหกรรม เทคโนโลยี และความจำเริญทางเศรษฐกิจ
P. 46
2-34 เศรษฐศาสตรอ์ ุตสาหกรรม เทคโนโลยี และความจ�ำ เริญทางเศรษฐกิจ
เรื่องท่ี 2.2.5
แนวคิดของคาร์ล มาร์กซ์ เกี่ยวกับโครงสร้างเศรษฐกิจ
คาร์ล มาร์กซ์ (Karl Marx) มีแนวคิดท่ีแตกต่างจาก อดัม สมิธโทมัส อาร์ มัลทัส และเดวิด
รคิ ารโ์ ด เกย่ี วกบั ระบบทนุ นยิ มเปน็ รากฐานของความจ�ำเรญิ เตบิ โต คารล์ มารก์ ซเ์ ชอื่ วา่ ระบบทนุ นยิ มเปน็
ขนั้ ตอนหนง่ึ หรอื เปน็ เพยี งวถิ ขี องการผลติ แบบหนง่ึ (A Mode of Production) ของการววิ ฒั นาการของ
สงั คมทจี่ ะเปลย่ี นแปลงไปสรู่ ะบบคอมมวิ นสิ ต์ เนอื่ งจากโครงสรา้ งของสงั คมแบบทนุ นยิ มไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์
ต่อสังคมส่วนรวมโดยแท้จรงิ หากแต่เปน็ การส่งเสริมใหบ้ คุ คลเห็นแกป่ ระโยชนส์ ่วนตัว และหาทางขูดรดี
เอารดั เอาเปรยี บบคุ คลทอี่ อ่ นแอกวา่ ดงั นน้ั มารก์ ซจ์ งึ ไดส้ รา้ งทฤษฎคี วามจำ� เรญิ ทางเศรษฐกจิ ทม่ี ลี กั ษณะ
แตกตา่ งจากนกั เศรษฐศาสตร์คนอน่ื ๆ
คาร์ล มาร์กซ์ มีความเห็นว่าความก้าวหน้าของวิถีการผลิตเป็นปัจจัยท่ีส�ำคัญของความจ�ำเริญ
ทางเศรษฐกิจ และจะเกิดข้ึนได้ก็ต่อเมื่อมีการลงทุน ซึ่งท้ังสองส่วนมีความเก่ียวข้องกัน และในระบบ
เศรษฐกิจแบบทุนนิยมมีกลุ่มคน 2 ประเภท ได้แก่ ชนชั้นนายทุนกับชนช้ันกรรมกร ชนช้ันนายทุนเป็น
ผู้มกี รรมสิทธใิ์ นปจั จัยทุนและทรัพยากรธรรมชาติ ส่วนชนชั้นกรรมกรเปน็ เพยี งปัจจยั แรงงานเท่านน้ั โดย
นายทนุ จะมงุ่ แสวงหากำ� ไรสงู สดุ และจะเปน็ ผรู้ ะดมปจั จยั การผลติ มาใชใ้ นการผลติ การทน่ี ายทนุ มงุ่ แสวงหา
กำ� ไรสูงสดุ นบั เป็นสาเหตใุ หเ้ กดิ ความขดั แย้งในระบบเศรษฐกิจ กลา่ วคือ
1. ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมขยายตัวได้ด้วยการลงทุนและความก้าวหน้าทางวิทยาการท่ีเกิด
จากการลงทนุ ถา้ อตั รากำ� ไรสงู การลงทนุ จะขยายตวั อยา่ งรวดเรว็ แตใ่ นชว่ งระยะยาวแลว้ อตั รากำ� ไรจะลดลง
เพราะในการลงทุนเพิ่มแต่ละคร้ัง วิถีการผลิตจะมีลักษณะเน้นการลงทุนมากข้ึน ค่าใช้จ่ายในการคิดและ
การประดิษฐ์เครื่องมือเครื่องจักรจะสูงข้ึน เป็นผลให้อัตราก�ำไรลดลง นอกจากนั้น การแข่งขันระหว่าง
ผผู้ ลติ จะทำ� ใหอ้ ตั รากำ� ไรลดลงเรว็ ยง่ิ ขน้ึ เพราะมกี ารแขง่ ขนั กนั ปรบั ปรงุ การผลติ การนำ� เทคนคิ ใหมๆ่ มา
ใชม้ ากขึ้น จนท�ำใหค้ ่าใชจ้ า่ ยสูงข้นึ
2. การนำ� เอาเคร่อื งทนุ่ แรงมาใชใ้ นการผลิตจะทำ� ให้แรงงานส่วนหน่งึ ถูกเครอ่ื งจกั รแทนท่ี และใน
ขณะเดียวกนั การขยายตัวของอตุ สาหกรรมส่วนรวมกไ็ ม่เพยี งพอท่ีจะรบั แรงงานสว่ นน้กี ลับเขา้ ไปทำ� งาน
ตามเดิม จงึ ท�ำให้เกิดปัญหาการวา่ งงานเพม่ิ สงู ข้นึ นอกจากนั้น ในการท่จี ะรักษาระดับอตั ราก�ำไรไวม้ ใิ ห้
ตกต่�ำ นายทุนอาจเพ่ิมเวลาของแรงงานเพ่ือใช้เครื่องมือเคร่ืองจักรของคนได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ใน
บางกรณนี ายทนุ กใ็ ชว้ ธิ กี ารจา้ งแรงงานทเี่ ปน็ สตรี เดก็ เพราะอตั ราคา่ จา้ งตำ่� กวา่ แรงงานชาย ซง่ึ ผลทเี่ กดิ ขน้ึ
กค็ อื ความขดั แยง้ ระหวา่ งนายจ้างกับกลมุ่ แรงงาน
3. นอกจากมผี ลทางสงั คมแลว้ การทนี่ ายทนุ กดคา่ จา้ งแรงงานและมกี ารวา่ งงานมากขน้ึ จะมผี ล
มาถงึ อตั รากำ� ไรของนายทนุ ดว้ ย เพราะการลดคา่ จา้ งระดบั การบรโิ ภคจะลดลง นายทนุ กย็ งิ่ จะเพม่ิ การกดข่ี
ชนชั้นกรรมกรมากยงิ่ ขึ้น เชน่ โดยการลดค่าจ้าง ลดการจ้างงาน สภาพการณเ์ ช่นนี้จะด�ำเนนิ ไปได้จนถึง
จุดท่ีชนช้ันกรรมกรไม่สามารถทนต่อไปได้ ณ จุดนี้เองชนช้ันกรรมกรจะมีการรวมตัวกันโค่นล้มนายทุน