Page 58 - เศรษฐศาสตร์อุตสาหกรรม เทคโนโลยี และความจำเริญทางเศรษฐกิจ
P. 58

2-46 เศรษฐศาสตรอ์ ุตสาหกรรม เทคโนโลยี และความจ�ำ เริญทางเศรษฐกิจ

เร่ืองท่ี 2.4.1
ทฤษฎีความจ�ำเริญทางเศรษฐกิจแบบขั้นตอนของมาร์กซ์

       ขนั้ ตอนของความจำ� เรญิ ทางเศรษฐกจิ เปน็ กระบวนการอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ทจี่ ะนำ� ไปสกู่ ารเปลยี่ นแปลง
และปรบั ปรงุ โครงสรา้ งทางเศรษฐกิจ เพือ่ ใหบ้ รรลุเปา้ หมายตา่ งๆ เชน่ การยกระดับรายได้ตอ่ บุคคลใหส้ ูง
ขึน้ การกระจายรายไดอ้ ย่างเป็นธรรม การรกั ษาเสถยี รภาพทางเศรษฐกจิ การจา้ งท�ำงานเต็มท่ี เป็นตน้

       เนอื่ งจากเปา้ หมายของการพฒั นาและความจำ� เรญิ ทางเศรษฐกจิ แตล่ ะประเทศจะแตกตา่ งกนั ออก
ไปตามกำ� ลงั ความสามารถ ทรพั ยากรและความตอ้ งการของประชากรในแตล่ ะประเทศ นอกจากนน้ั เปา้ หมาย
และการพัฒนาความจ�ำเริญทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศยังมีการเปล่ียนแปลงอยู่เสมอ กล่าวคือ เมื่อ
ประเทศหนึ่งได้บรรลเุ ป้าหมายการพัฒนาในระดบั หนง่ึ แล้ว กม็ คี วามต้องการยกระดับการพฒั นาตอ่ ไปให้
สูงขึ้นต่อไป ท�ำให้การพัฒนาและความจ�ำเริญทางเศรษฐกิจเป็นกระบวนการท่ีด�ำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
และไม่มีท่ีสิ้นสุด มีนักเศรษฐศาสตร์หลายท่านได้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจของประเทศยุโรป
บางประเทศในเชงิ ประวตั ศิ าสตร์ โดยอาศยั การสงั เกตและสถติ ิ และไดส้ รปุ วา่ ขน้ั ตอนของความจำ� เรญิ ทาง
เศรษฐกจิ ของประเทศหนงึ่ ๆ เปน็ กระบวนการทตี่ อ่ เนอ่ื งเปน็ ขน้ั ๆ และแตล่ ะขนั้ ใชเ้ วลายาวนานตา่ งกนั โดย
ขนึ้ กบั ปจั จยั ตา่ งๆ ทมี่ อี ทิ ธพิ ลตอ่ การพฒั นาและความจำ� เรญิ ทางเศรษฐกจิ นกั เศรษฐศาสตรท์ ก่ี ลา่ วถงึ เชน่
คารล์ มาร์กซ์ อดัม สมธิ และรอสโทว์

แนวคิดของคาร์ล มาร์กซ์ เกี่ยวกับความจ�ำเริญทางเศรษฐกิจแบบข้ันตอน

       คาร์ล มาร์กซ์ อธิบายข้ันตอนของความจ�ำเริญทางเศรษฐกิจในแต่ละข้ันตอนว่ามีวิวัฒนาการมา
ได้อย่างไร เกิดอย่างไร นับเป็นแนวคิดวิธีวิเคราะห์ประวัติศาสตร์ที่อธิบายปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจ
โดยมาร์กซ์เชื่อว่าการต่อสู้ทางชนช้ันเป็นกลไกท่ีก่อให้เกิดการเปล่ียนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคมและ
การเมือง โดยมาร์กซ์แบง่ ขนั้ ตอนความจ�ำเริญทางเศรษฐกจิ เปน็ 5 ข้ันคือ

       1. 	สังคมบุพกาล (Primitive Society) เป็นสังคมแรกเร่มิ ของมนษุ ยก์ ารผลิตสินคา้ ส่วนใหญ่เปน็
สนิ คา้ การเกษตร โดยใช้เครือ่ งมืออุปกรณ์อยา่ งงา่ ย ประสิทธภิ าพในการผลิตต่ำ�  เปน็ การผลิตเพือ่ บริโภค
ไปวนั หนง่ึ ๆ เทา่ นนั้ ชมุ ชนรว่ มกนั เปน็ เจา้ ของปจั จยั การผลติ ไมม่ กี รรมสทิ ธส์ิ ว่ นบคุ คล ไมม่ กี ารแบง่ ชนชน้ั
และไม่มีการเอาเปรยี บกนั

       2. 	สังคมโบราณท่ีมีทาส (The Ancient Slave State) สงั คมน้มี ีการเพม่ิ ประสทิ ธิภาพการผลติ
ของสงั คมบุพกาล จนกระท่ังมีผลติ ผลเหลอื เปน็ สว่ นเกนิ (Surplus) การมสี ว่ นเกนิ เปิดโอกาสให้เกดิ การ
เอารดั เอาเปรยี บ เนอื่ งจากคนบางกลมุ่ สามารถยดึ เอาผลติ ผลสว่ นเกนิ เปน็ ของตน มกี ารยดึ เอาแรงงานมา
เปน็ สมบตั ขิ องตน โดยเรม่ิ แรกไดบ้ งั คบั เอาเชลยศกึ ลงเปน็ ทาสกอ่ น แมแ้ ตค่ นในสงั คมเดยี วกนั กอ็ าจถกู เอา
ตวั ลงเปน็ ทาสได้ ทำ� ใหเ้ กดิ มรี ะบบทาส กดขข่ี ดู รดี แรงงานจากทาส เปน็ เหตใุ หท้ าสไมเ่ อาใจใสใ่ นการผลติ
กำ� ไรจากการผลติ ในไรน่ าจงึ ลดลง แตก่ ารผลติ ขนาดเลก็ โดยผเู้ ชา่ ทเ่ี ปน็ ชาวนาอสิ ระกลบั มปี ระสทิ ธภิ าพสงู ขน้ึ
   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63