Page 48 - เศรษฐศาสตร์อุตสาหกรรม เทคโนโลยี และความจำเริญทางเศรษฐกิจ
P. 48
3-38 เศรษฐศาสตรอ์ ตุ สาหกรรม เทคโนโลยี และความจ�ำ เริญทางเศรษฐกจิ
เร่ืองที่ 3.4.1
แนวคิดการพัฒนาแบบย่ังยืน
การพฒั นาเศรษฐกจิ ของประเทศกำ� ลงั พฒั นาตา่ งๆ ในหลายทศวรรษทผ่ี า่ นมา ไดท้ ำ� ใหเ้ ศรษฐกจิ
และรายไดข้ องประชาชนในประเทศเหล่านส้ี ูงขน้ึ แต่ในขณะเดยี วกนั ก็ไดม้ ีการนำ� เอาทรพั ยากรธรรมชาติ
ต่างๆ มาใช้กันอย่างแพร่หลาย จนทรัพยากรธรรมชาติมีแนวโน้มลดลงอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน
การขยายตัวทางด้านอุตสาหกรรม ก็ท�ำให้มีการทิ้งของเสียท่ีเกิดจากกระบวนการผลิต การปล่อยน้�ำเสีย
และควันจากโรงงานซ่งึ ทำ� ใหส้ ภาพแวดลอ้ มเปล่ยี นแปลงไปในทางทแี่ ยล่ ง ดงั กรณีตัวอย่าง เช่น
1. การใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากจนท�ำให้หมดส้ินและเหลือน้อยลง ไดแ้ ก่
1.1 การเสอื่ มโทรมของดนิ และการสญู เสยี ความอดุ มสมบรู ณ์ อนั เนอื่ งมาจากการผลติ อาหาร
ตามจ�ำนวนประชากรท่ีเพิ่มข้ึน ท�ำให้ใช้ท่ีดินหลายครั้งขาดการพักดินให้อุดมสมบูรณ์ การขยายตัวของ
เมอื ง การบุกรกุ ท่ดี ิน การทำ� ลายป่าเพอ่ื แสวงหาทีเ่ พาะปลูก การใชท้ ีด่ นิ ผดิ ประเภท
1.2 การใช้นำ้� อย่างไมส่ งวนรักษา เน่อื งจากจำ� นวนประชากรและการผลิตสนิ คา้ และบริการ
ต่างๆ เพ่ิมมากข้ึน ประกอบกับการเปล่ียนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศ ท�ำให้มีการใช้น�้ำท่ีขาดความ
ระมัดระวงั
1.3 การสูญเสียพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ ท่ีเกิดจากการตัดไม้ท�ำลายป่าเพ่ือน�ำมาใช้หรือขาย
การจับปลามากเกินไป และใช้เครื่องมอื ทีท่ ำ� ใหส้ ตั วน์ ำ�้ ขนาดเล็กตาย กอ่ ให้เกิดปัญหาการสูญพันธุ์สตั วน์ ำ้�
1.4 การขดุ คน้ แรธ่ าตมุ าใชโ้ ดยแรธ่ าตตุ า่ งๆ ไมส่ ามารถผลติ เพมิ่ ขนึ้ ไดใ้ นระยะเวลาสนั้ ทำ� ให้
ปรมิ าณแร่ธาตุหมดไปอย่างรวดเรว็
2. การเพ่ิมปริมาณมลพิษจากการเพิ่มปริมาณการผลิตสินค้าและบริการ ได้แก่
2.1 การเพม่ิ มลพษิ ทเ่ี กดิ จากควนั ของโรงงาน และยานพาหนะตา่ งๆ โดยปลอ่ ยคารบ์ อนได-
ออกไซด์ ไนโตรเจนไอออกไซด์ และคลอโรฟลโู อคารบ์ อน ในปรมิ าณสงู จนกระทง่ั เกดิ ผลกระทบเรอื นกระจก
และทำ� ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอากาศ
2.2 การเกิดฝนกรด อันเนอ่ื งมาจากการปลอ่ ยซลั เฟอร์ไดออกไซด์
2.3 การเกิดมลพิษจากสารพิษ เช่น สารเคมีจากโรงงาน สารเคมีจากภาคเกษตร สาร-
กมั มันตภาพรงั สี ไฮโดรคาร์บอน เปน็ ต้น
จากปญั หาตา่ งๆ ขา้ งตน้ เรม่ิ เปน็ ทป่ี ระจกั ษแ์ ละขยายวงกวา้ งออกไปเรอ่ื ยๆ จนเกดิ ผลกระทบเปน็
วงกว้างระดบั โลก ทำ� ใหอ้ งคก์ ารต่างๆ ระดับโลกไดใ้ ห้ความสนใจและจัดการประชมุ เพือ่ ร่วมกันแกไ้ ขและ
ปอ้ งกนั มใิ หเ้ กิดปญั หาขยายตวั มากกวา่ น้ี เชน่
ใน ค.ศ. 1972 ได้มีการจัดต้ังแต่หน่วยงานในการป้องกันสิ่งแวดล้อมขององค์การสหประชาชาติ
(The United Nations Environment Programme: UNEP)

