Page 45 - เศรษฐศาสตร์อุตสาหกรรม เทคโนโลยี และความจำเริญทางเศรษฐกิจ
P. 45
แนวคิดทฤษฎีทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั ความจำ�เรญิ ทางเศรษฐกิจ II 3-35
เรื่องท่ี 3.3.3
ทฤษฎีการพัฒนาเศรษฐกิจของพรีบิส์ช
การคา้ ระหวา่ งประเทศสนบั สนนุ การพฒั นาเศรษฐกจิ ของประเทศตา่ งๆ โดยการคา้ ระหวา่ งประเทศ
กอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนท์ ง้ั ในระยะสน้ั และระยะยาว โดยระยะสน้ั จะชว่ ยทำ� ใหป้ ระเทศสามารถทำ� การผลติ จนถงึ
ระดบั การจา้ งทำ� งานเตม็ ทแี่ ละสามารถจดั สรรทรพั ยากรของประเทศไปใชใ้ นการผลติ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
สูงสุด รายได้ของประชากรเพม่ิ ข้นึ สวสั ดิการเพม่ิ สูงข้ึน ส่วนประโยชนใ์ นระยะยาวจะชว่ ยขยายตลาดของ
สนิ คา้ ทำ� ใหป้ ระเทศสามารถนำ� เขา้ สนิ คา้ ทต่ี อ้ งการได้ สง่ เสรมิ การออมและการลงทนุ ในประเทศ แตก่ ารคา้
ระหว่างประเทศที่อาจเกิดผลเสียต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศก�ำลังพัฒนา กล่าวคืออาจท�ำให้การ
เคลอ่ื นยา้ ยปจั จยั การผลติ ในทศิ ทางทไี่ มเ่ ปน็ ผลดตี อ่ ประเทศกำ� ลงั พฒั นา ซง่ึ เกดิ การเลยี นแบบการบรโิ ภค
ของประเทศพัฒนา อัตราการค้าของประเทศกำ� ลังพัฒนาลดลง และประสบปัญหาดลุ การชำ� ระเงนิ ขาดดลุ
การทอี่ ัตราการค้า (Terms of Trade) ของประเทศกำ� ลงั พฒั นาลดลงตลอดเวลา เป็นผลมาจาก
ราคาสนิ ค้าที่น�ำเข้า ซ่ึงไดแ้ ก่ สินคา้ อุตสาหกรรมมีแนวโนม้ ของราคาสงู ขึ้น เพราะประเทศพัฒนามีอำ� นาจ
ผูกขาดในตลาดสนิ คา้ อตุ สาหกรรมและในตลาดปจั จยั การผลติ สว่ นราคาสนิ คา้ สง่ ออกซง่ึ ไดแ้ กส่ นิ คา้ ขนั้ ปฐม
มีแนวโน้มต่�ำลง ท�ำให้เป็นการโอนรายได้จากประเทศก�ำลังพัฒนาไปยังประเทศพัฒนา และมีปัญหาดุล
การช�ำระเงนิ ขาดดุล ซง่ึ ในท่ีสุดจะเปน็ อุปสรรคตอ่ การพฒั นาเศรษฐกจิ ของประเทศ
ราอูล พรีบิส์ช (Raul Prebisch) นักเศรษฐศาสตร์โครงสร้าง (Structural Economist) ชาว
อารเ์ จนตนิ าไดศ้ กึ ษาเกย่ี วกบั การพฒั นาของประเทศกำ� ลงั พฒั นา และมขี อ้ สงั เกตวา่ ในชว่ งทเี่ ศรษฐกจิ โลก
ตกตำ่� ราคาสง่ ออกสนิ คา้ เกษตรและสนิ คา้ ขนั้ ปฐมอน่ื ๆ จะตกตำ่� อยา่ งมากและรวดเรว็ กวา่ ราคาสง่ ออกสนิ คา้
หัตถอุตสาหกรรมและสินค้าอื่นๆ โดยพรีบิส์ช ได้วิเคราะห์กรณีของประเทศอาร์เจนตินา ใน ค.ศ. 1933
ทไ่ี ดส้ ง่ สนิ คา้ ออกเปน็ สนิ คา้ เกษตรไปขายในตลาดโลกถงึ รอ้ ยละ 73 เพอ่ื แลกกบั การนำ� เขา้ สนิ คา้ อตุ สาหกรรม
และสนิ คา้ อนื่ ๆ ในปรมิ าณเทา่ เดมิ ทเี่ คยนำ� เขา้ ในชว่ งกลางหรอื ปลายทศวรรษ 1920 อนั เปน็ ผลมาจากความ
ไม่เทา่ เทยี มกันของราคาส่งออกสนิ ค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมในตลาดโลก
พรบี สิ ์ช และคณะจากธนาคารกลางอารเ์ จนตินา ไดเ้ รม่ิ พัฒนาทฤษฎีทจ่ี ะน�ำมาอธิบายความเสีย
เปรียบของตลาดสินค้าเกษตรเทียบกับตลาดสินค้าอุตสาหกรรม ใน ค.ศ. 1973 โดยได้ข้อสรุปว่า ใน
ภาคอุตสาหกรรมอุปทานของสินค้าจะมีความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคาสูงกว่าอุปทานของสินค้าเกษตร
เมอื่ อปุ สงคใ์ นสนิ คา้ อตุ สาหกรรมลดลง จะทำ� ใหป้ รมิ าณการผลติ สนิ คา้ เกษตรลดลงดว้ ย ระดบั ราคาดลุ ยภาพ
กจ็ ะลดลงดว้ ย แตล่ ดลงไมม่ ากนกั แตต่ รงขา้ มกบั ในภาคการเกษตร ซงึ่ ผผู้ ลติ สว่ นใหญเ่ ปน็ ผผู้ ลติ รายยอ่ ย
และอปุ ทานมคี วามยืดหยุ่นต่อราคาตำ่� เมือ่ อปุ สงค์ลดลงปรมิ าณการผลิตกจ็ ะไม่ลดลงมากนัก แต่ราคาจะ
ลดลงอย่างรวดเรว็ และลดต�่ำมาก

