Page 45 - การสื่อข่าวและการเขียนข่าว
P. 45
แหล่งขา่ ว แหลง่ ข้อมูล และความนา่ เชือ่ ถือของขอ้ มูล 6-35
แหลง่ ขา่ วทดี่ อี าจเปน็ บคุ คลหรอื หนว่ ยงานทเ่ี ผยแพรข่ อ้ มลู ทจี่ ำ� เปน็ ตอ่ การสอ่ื ขา่ ว เชน่ ผมู้ อี ำ� นาจ
ในการตดั สนิ ใจ บคุ คลทไ่ี ดร้ บั ผลกระทบจากเหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ รวมทงั้ แหลง่ ขอ้ มลู หลกั ฐานทจ่ี ำ� เปน็ สำ� หรบั
การท�ำข่าวเชิงสืบสวน ตลอดจนเว็บไซต์ขององค์กรข่าวที่รายงานเหตุการณ์ส�ำคัญ เช่น ค�ำพิพากษาคดี
บันทึกประวัติศาสตร์ เป็นตน้ แหล่งข้อมูลควรเอ้ือตอ่ การท่ผี ู้สื่อข่าวสามารถสบื ค้นข้อมูลเชงิ ลึกได้ แม้ต้อง
ใช้เวลาในการสบื ค้น ท่ีส�ำคัญคือสามารถตรวจสอบความถกู ต้องของขอ้ เทจ็ จรงิ ได้
แหล่งข่าวท่ีน่าเช่ือถือมักคัดเลือกจากผู้มีบทบาท อ�ำนาจหน้าท่ี รวมทั้งความรับผิดชอบต่อการ
บรหิ ารจดั การและการดำ� เนนิ งานขององคก์ รนนั้ ๆ เพราะตอ้ งรบั ผดิ ชอบตอ่ ขอ้ มลู ทใี่ หส้ มั ภาษณแ์ กผ่ สู้ อ่ื ขา่ ว
กรณีท่แี หลง่ ข่าวเปน็ ผูไ้ มม่ ีอ�ำนาจหน้าที่หรือความรบั ผดิ ชอบในองคก์ ร กต็ อ้ งเปน็ ผเู้ ห็นเหตกุ ารณห์ รอื อยู่
ใกล้ชิดกบั เหตุการณ์ทเี่ กิดขึน้ เพราะนา่ จะเป็นผูท้ ใี่ ห้ข้อมูลเหตกุ ารณ์ทใ่ี กลเ้ คียงความเปน็ จริงมากทสี่ ุด
ผู้สื่อข่าวไม่ควรยึดถือและเช่ือในข้อมูลที่ได้รับจากแหล่งข่าวท่ีมีต�ำแหน่งหน้าท่ีและยศศักด์ิช้ันสูง
เพยี งแหลง่ เดยี ว แตค่ วรตง้ั คำ� ถามกบั ตนเองในระหวา่ งการสบื คน้ ขอ้ มลู ใชค้ วามสงั เกตพจิ ารณาบคุ ลกิ ของ
ผใู้ หข้ ้อมูล โดยเฉพาะการแสดงสหี น้า สายตา อากัปกริ ิยาทา่ ที ความจริงใจในการใหข้ ้อมลู บางคร้งั คน
ทว่ั ไปทไี่ มม่ ยี ศ ตำ� แหนง่ อาจเปน็ แหลง่ ขา่ วทดี่ ไี ดส้ ำ� หรบั เหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ขนึ้ เชน่ คนทำ� ความสะอาดอาคาร
คนรับจ้างเดินเอกสาร แตท่ ้งั นข้ี ึ้นอยู่กบั ประเด็นข่าว ความเกี่ยวขอ้ งกับเหตกุ ารณ์ และห้วงเวลาท่เี กิด
ในกรณีท่ีแหล่งข่าวเป็นบุคคลที่แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องราวหรือเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึน โดยมุ่งไป
ในทศิ ทางใดทศิ ทางหนงึ่ ผสู้ อื่ ขา่ วจำ� เปน็ ตอ้ งหาแหลง่ ขอ้ มลู ทโ่ี ตแ้ ยง้ กบั ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากแหลง่ แรก เพอ่ื ใหก้ าร
น�ำเสนอขา่ วสมดลุ มากที่สดุ ควรเสนอข้อคดิ เหน็ จากหลายๆ ฝา่ ย แลว้ ใหผ้ รู้ ับสารเปน็ ผ้พู จิ ารณาตัดสนิ ว่า
จะเชื่อฝา่ ยใด หรือไม่เช่ือเลย
การอ้างองิ แหล่งขอ้ มลู ควรอ้างอิงหลายๆ แหลง่ เพราะแต่ละแหล่งอาจใหข้ ้อมลู ทแ่ี ตกตา่ งกัน จงึ
จ�ำเป็นตอ้ งรวบรวมข้อมูลเพอ่ื ตรวจสอบขอ้ เทจ็ จริง ยืนยันความถกู ตอ้ งจากหลายๆ แหล่ง กอ่ นเรยี บเรยี ง
และเผยแพร่ขอ้ มลู นนั้ ออกไป
เมอื่ แหลง่ ขา่ วกลา่ วถงึ บคุ คลทสี่ าม โดยเฉพาะถา้ เปน็ ความขดั แยง้ ผสู้ อ่ื ขา่ วจำ� เปน็ ตอ้ งตรวจสอบ
ขอ้ มลู จากแหลง่ ขา่ วอน่ื โดยเฉพาะถา้ ผทู้ ถ่ี กู พดู ถงึ เปน็ บคุ คลทมี่ ชี อื่ เสยี งหรอื มคี วามสำ� คญั ระดบั ชาติ (Rich,
2005, อ้างแลว้ )
การรวบรวมขอ้ มลู จากเอกสารมกั ใชเ้ วลานาน เนอื่ งจากแหลง่ ขอ้ มลู มมี ากมาย ผสู้ อื่ ขา่ วตอ้ งเลอื ก
เฉพาะประเดน็ ทสี่ อดคล้องและเกีย่ วข้อง สอบถามจากผู้ร้ใู นการเข้าถงึ แหลง่ ขอ้ มูล ใชเ้ วลาในการอ่านและ
ท�ำความเขา้ ใจ ซง่ึ ตอ้ งอาศัยทกั ษะและความช�ำนาญในการคน้ หาความหมายท่ซี ่อนอยู่ระหวา่ งบรรทัด
ไม่ว่าจะน�ำเสนอข่าวผ่านช่องทางใด แหล่งข้อมูลอาจมาจากแหล่งเดียวกันได้ เช่น บุคคลส�ำคัญ
ในระดบั ประเทศ ผนู้ ำ� ประเทศ ผนู้ ำ� รฐั บาล รฐั มนตรวี า่ การกระทรวง ผบู้ รหิ ารระดบั สงู ของกระทรวง ทบวง
กรม กรณีการรวบรวมเหตุการณใ์ นระดบั องค์กร
แหลง่ ขา่ วทใี่ หข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั เหตกุ ารณอ์ าชญากรรมนน้ั ผสู้ อื่ ขา่ วตอ้ งระมดั ระวงั การนำ� เสนอขอ้ มลู
ทไ่ี มใ่ ชเ่ ปน็ การวนิ จิ ฉยั หรอื ตดั สนิ บคุ คลผกู้ อ่ เหตนุ นั้ ๆ เพราะผตู้ ดั สนิ แทจ้ รงิ ทไี่ ดร้ บั การยอมรบั จากสาธารณะ
คอื ผู้พพิ ากษา