Page 18 - การรายงานข่าวและการบรรณาธิกร
P. 18

5-8 การรายงานข่าวและการบรรณาธกิ ร
            2.2		เพ่อื ใหค้ นในสงั คมอยูร่ ว่ มกนั อย่างสงบสขุ และถอื เปน็ ข้อกำ� หนดร่วมกนั ท่ีทกุ คนต้องรู้

และปฏิบัติ เพือ่ ใหเ้ กดิ ความเป็นธรรมโดยเสมอภาคกนั
            2.3		เพื่อเป็นหลักประกันสิทธิ เสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชน กฎหมายรัฐธรรมนูญ

ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของแต่ละประเทศน้ัน ต้องก�ำหนดเร่ืองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนไว้ใน
รัฐธรรมนูญ จากการที่กฎหมายเปน็ เคร่ืองมอื ปกครองและควบคมุ สังคม จงึ ตอ้ งมบี ทลงโทษท่ีชัดเจนเพ่ือ
ไม่ให้คนกระท�ำความผิดได้ ผู้สื่อข่าวหรือนักหนังสือพิมพ์ในฐานะที่เป็นประชาชนและเป็นผู้ท�ำงานด้าน
สื่อมวลชนจ�ำเป็นต้องรู้กฎหมาย ผู้ส่ือข่าวหรือนักหนังสือพิมพ์ท่ีท�ำละเมิดต่อสิทธิของผู้อ่ืนจะต้องได้รับ
การลงโทษตามที่กฎหมายก�ำหนด การลงโทษมีหลายลักษณะและมีจุดมุ่งหมายแตกต่างกันออกไป ดังน้ี
(ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18)

                 1)		โทษประหารชีวิต เปน็ การลงโทษขนั้ สงู สดุ กระทำ� ผดิ ทร่ี า้ ยแรง เชน่ การฆา่ คนตาย
โดยเจตนา การค้ายาเสพตดิ เปน็ ตน้

                 2)		โทษจำ� คกุ เปน็ โทษสถานหนกั รองจากโทษประหารชวี ติ การลงโทษจำ� คกุ มจี ดุ มงุ่ หมาย
เพื่อแยกคนไมด่ อี อก และใหโ้ อกาสคนทีก่ ระท�ำผิดมโี อกาสปรับปรุงและแกไ้ ขตนเอง

                 3)		โทษกักขัง เป็นโทษสถานเบาที่ลดหย่อนลงมาจากโทษจ�ำคุก กรณีเป็นความผิด
ซงึ่ ผูก้ ระทำ� ได้กระท�ำในขณะที่มอี ายตุ �่ำกว่า 18 ปี มิใหถ้ ือเป็นความผิดทจี่ ะน�ำมาพิจารณากันตามมาตรานี้
การกักขังจะต้องขังไว้ในท่ีซ่ึงก�ำหนดไว้เป็นกรณีพิเศษ โดยอาจเป็นท่ีพักอาศัยของผู้กระท�ำความผิดเอง
ก็ได้ และสถานที่นั้นไม่ใช่เรือนจ�ำ  สถานีต�ำรวจ หรือสถานท่ีควบคุมผู้ต้องหาของพนักงานสอบสวน
(ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 41 แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยมาตรา 3 แหง่ พระราชบญั ญตั แิ กไ้ ขเพม่ิ เตมิ ประมวล-
กฎหมายอาญา (ฉบับที่ 21) พ.ศ. 2551) โทษกักขังอาจเปลี่ยนเป็นโทษจ�ำคุกได้ หากผู้ต้องโทษฝ่าฝืน
ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั หรอื วนิ ยั ของสถานทก่ี กั ขงั หรอื ผตู้ อ้ งโทษไมป่ ฏบิ ตั ติ ามเงอ่ื นไขทศ่ี าลกำ� หนด หรอื ตอ้ ง
คำ� พพิ ากษาใหล้ งโทษจำ� คุกในเวลาตอ่ มา

                 4)		โทษปรับ เป็นโทษที่ผู้กระท�ำผิดต้องจ่ายเงินเพ่ือชดเชยความผิดที่กระทำ� ในกรณี
ทคี่ า่ ปรบั ไมเ่ กนิ แปดหมน่ื บาท ผตู้ อ้ งโทษปรบั ทไ่ี มใ่ ชน่ ติ บิ คุ คล และไมม่ เี งนิ คา่ ปรบั อาจรอ้ งตอ่ ศาลเพอื่ ขอ
ทำ� งานบรกิ ารสงั คม หรอื ทำ� งานสาธารณประโยชนแ์ ทนคา่ ปรับได้ (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 30/1
แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยมาตรา 7 แหง่ พระราชบญั ญตั แิ กไ้ ขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับท่ี 15) พ.ศ.
2545) นอกจากโทษทางอาญาแลว้ ยังมโี ทษทางแพ่งในเร่อื งละเมดิ กลา่ วคือ เมื่อผ้ใู ดจงใจหรือประมาท
เลินเลอ่ กอ่ ความเสียหายแก่บคุ คลอนื่ กฎหมายระบใุ ห้ผทู้ ี่ละเมดิ ตอ้ งชดใช้ค่าเสียหาย และคา่ จ่ายท�ำขวัญ
แกผ่ ูท้ ่ถี ูกละเมิด เรยี กวา่ คา่ สินไหมทดแทน ได้แก่

            การคนื ทรพั ยท์ ผ่ี เู้ สยี หายตอ้ งเสยี ไปเพราะการทำ� ละเมดิ หรอื การใชร้ าคาทรพั ยส์ นิ นน้ั พรอ้ ม
กบั การจา่ ยเงนิ เพอื่ ชดเชยความเสยี หายทเี่ กดิ จากการกระทำ� ละเมดิ การกำ� หนดจำ� นวนคา่ สนิ ไหมทดแทน
มากนอ้ ยเพยี งใด กฎหมายกำ� หนดใหศ้ าลเปน็ ผวู้ นิ จิ ฉยั ตามควรแกก่ รณี (ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์
มาตรา 438)

            กฎหมายทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั สอ่ื มวลชนมหี ลายฉบบั เชน่ กฎหมายรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย
พ.ศ. 2560 ประมวลกฎหมายอาญา ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสาร
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23