Page 23 - การรายงานข่าวและการบรรณาธิกร
P. 23

การรายงานข่าวกบั ความรบั ผดิ ชอบทางกฎหมาย 5-13
       ตัวอย่าง นักข่าวรายงานว่านายต�ำรวจคนหนง่ึ น�ำผู้ตอ้ งหาซงึ่ เปน็ ครูคดีข่มขืนมาแถลงขา่ ว โดย
นกั ขา่ วเขยี นขอ้ ความวา่ ครเู ดยี๋ วนเ้ี ปน็ คน “เลว” ซงึ่ แปลวา่ ผทู้ ไี่ มใ่ ชค่ นดี หรอื กรณที มี่ กี ารจบั กมุ ตวั ผเู้ ยาว์
ซง่ึ กระทำ� ความผดิ ฐานลกั ทรพั ย์ หนงั สอื พมิ พ์ พาดหวั ขา่ ว หรอื บรรยายภาพวา่ “มารสงั คม” ทั้งที่ในทาง
กฎหมายต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจ�ำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะมีค�ำพิพากษาของศาล
ว่ากระท�ำผิดจริง การกระท�ำของผู้สื่อข่าวนั้นถือว่าเป็นการละเมิดศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ต้องหา
ทร่ี ฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2560 ใหก้ ารรบั รองคมุ้ ครอง การกระทำ� ดงั กลา่ วจงึ เปน็ การละเมดิ
สทิ ธสิ ว่ นบคุ คลของผอู้ นื่ ผสู้ อ่ื ขา่ วจะอา้ งวา่ เปน็ บทบาทของสอื่ มวลชนทม่ี หี นา้ ทใ่ี นการรายงานขา่ วหรอื เปน็
สทิ ธใิ นการแสวงหาขา่ วสารไมไ่ ด้
       ตัวอย่าง ผสู้ อื่ ขา่ วนำ� เสนอขา่ วดารา รกั กนั ไมน่ านแลว้ ตอ้ งเลกิ ลาเพราะดาราทช่ี อื่ อกั ษร “อ” เปน็
มอื ท่สี าม เปน็ ตวั อย่างทีไ่ มด่ ีในการด�ำเนินชวี ิต เปน็ การละเมดิ สิทธสิ ่วนบุคคลของดาราที่ถูกกล่าวถึง
       ผ้ใู ดกลา่ วหรือไขข่าวแพร่หลาย ซ่ึงข้อความอันฝา่ ฝนื ต่อความเปน็ จรงิ เป็นท่เี สยี หายแก่ช่อื เสียง
หรอื เกยี รติคณุ ของบคุ คลอื่นกด็ ี หรือเปน็ ท่ีเสียหายแกท่ างทำ� มาหาได้หรือความเจริญของเขาโดยประการ
อนื่ กด็ ี ทา่ นวา่ ผนู้ น้ั จะตอ้ งชดใชค้ า่ สนิ ไหมทดแทนใหแ้ กเ่ ขา เพอ่ื ความเสยี หายอยา่ งใดๆ อนั เกดิ แตก่ ารนนั้
แม้ท้ังเม่ือตนมิได้รู้ว่าข้อความน้ันไม่จริงแต่หากจะควรรู้ได้ ผู้ใดส่งข่าวอันตนมิได้รู้ว่าเป็นความไม่จริง
หากวา่ ตนหรอื ผรู้ บั ขา่ วสารน้ันมีทางไดเ้ สีย โดยชอบโดยการนนั้ ดว้ ยแลว้ ท่านว่าเพียงท่ีส่งขา่ วเช่นนั้นหา
ทำ� ให้ผู้นั้นตอ้ งรบั ผดิ ใชค้ า่ สนิ ไหมทดแทนไม่ (มาตรา 423)
       องค์ประกอบของมาตรา 423 มี 5 ประการ คือ
       1.	 ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลาย หมายถงึ เป็นผพู้ ูดเองหรือพูดในสง่ิ ที่ไดย้ ินไดฟ้ ังมา รวมถึง
การรายงานขา่ วเปน็ เอกสาร คำ� พดู การกระจายเสยี งซง่ึ เปน็ การนำ� มาเผยแพรใ่ หผ้ อู้ น่ื รบั ทราบ การไขขา่ ว
แพร่หลายจนเกิดความเสียหายน้ันต้องเก่ียวข้องกับบุคคลที่สามที่จะรู้ข้อความน้ัน ถ้าไม่รู้ก็ไม่ถือว่า
แพร่หลายและไมก่ ่อให้เกดิ ความเสยี หาย
       2.	 ซง่ึ ขอ้ ความอนั ฝา่ ฝนื ตอ่ ความเปน็ จรงิ หมายถงึ พดู ไมต่ รงกบั สง่ิ ทเี่ กดิ ขน้ึ จรงิ หรอื จรงิ บางสว่ น
       3.	 เป็นที่เสียหายแก่บุคคลอื่น หมายถึง เสียหายแก่ช่ือเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่น หรือ
เป็นท่ีเสียหายแก่ทางท�ำมาหาไดห้ รอื ความเจริญของบคุ คลอืน่
       4.	 แม้ท้ังเมื่อตนมิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริงแต่หากจะควรรู้ได้ หมายถงึ การรายงานขา่ วจะอา้ ง
วา่ ไมร่ วู้ า่ จรงิ หรอื ไมจ่ รงิ ไมไ่ ด้ หรอื จะอา้ งวา่ มผี สู้ ง่ มาใหล้ งพมิ พไ์ มไ่ ด้ ตอ้ งรบั ผดิ ตอ่ การรายงานขา่ วทกี่ อ่ ให้
เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น
       5.	 ข้อยกเว้นความรับผิด ผใู้ ดสง่ ขา่ วอนั ตนมไิ ดร้ วู้ า่ เปน็ ความไมจ่ รงิ หากวา่ ตนหรอื ผรู้ บั ขา่ วสาร
น้ันมีทางได้เสีย โดยชอบโดยการนั้นด้วยแล้ว ท่านว่าเพียงท่ีส่งข่าวเช่นน้ันหาท�ำให้ผู้นั้นต้องรับผิดใช้ค่า
สินไหมทดแทนไม่
       ตัวอย่าง จ�ำเลยท้ังหกร่วมกันน�ำเร่ืองราวชีวิตจริงของโจทก์ที่ 1 มาแสดงละครจีนหรืองิ้ว โดย
บดิ เบอื นใหเ้ หน็ วา่ โจทกท์ ี่ 1 ซงึ่ เปน็ ภรยิ านอ้ ยมนี สิ ยั ไมด่ ี ชอบอจิ ฉารษิ ยาและกอ่ เรอื่ งวนุ่ วายขนึ้ ในครอบครวั
จนเป็นเหตุให้สามีถูกบุตรสาวใช้ปืนยิงถึงแก่ความตาย ท�ำให้โจทก์ที่ 1 เสียชื่อเสียงอาจถูกดูหม่ินหรือ
ถกู เกลยี ดชงั ได้ การกระท�ำของจ�ำเลยท้ังหกจึงเป็นการรว่ มกันทำ� ละเมิดต่อโจทกท์ ่ี 1
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28