Page 52 - การผลิตภาพยนตร์เบื้องต้น
P. 52
12-42 การผลติ ภาพยนตรเ์ บ้ืองต้น
เรื่องที่ 12.3.1
รูปแบบการตัดต่อเพื่อการเล่าเร่ืองภาพยนตร์
ภาพยนตร์เป็นส่ือที่ถูกคาดหวังจากผู้ชมว่าต้องการน�ำเสนอเร่ืองเล่าของภาพเคล่ือนไหวผ่าน
เหตุการณ์ฉากต่อฉากโดยเน้นการน�ำเสนอเพื่อเล่าเร่ืองอะไร เล่าแล้วท�ำให้ผู้ชมรับรู้เร่ืองราวและเข้าถึง
อารมณ์ของเรอ่ื งเล่าตรงตามทผ่ี ู้ก�ำกับภาพยนตรก์ ำ� หนดไว้ การเล่าเรื่องภาพยนตร์ทีท่ ำ� ใหผ้ ูช้ มสนกุ สนาน
ประทบั ใจในการตดิ ตามชมคอื การเลา่ เรอ่ื งภาพยนตรท์ ผี่ ชู้ มดรู เู้ รอื่ ง เขา้ ใจเปา้ หมายการนำ� เสนอภาพยนตร์
ใชเ้ ทคนคิ การถ่ายท�ำภาพยนตร์ลงตัวรว่ มกบั การแสดงและการกำ� กบั ภาพยนตร์ นอกจากนย้ี ังมีการตัดต่อ
ภาพยนตรท์ เ่ี ปน็ ศาสตรแ์ ละศลิ ปส์ ำ� คญั ในการปน้ั ภาพยนตรใ์ หเ้ ปน็ เรอ่ื งเลา่ ทสี่ มบรู ณพ์ รอ้ มนำ� เสนอสสู่ ายตา
ผู้ชม
การตัดต่อภาพยนตร์มีหลายรูปแบบเพื่อน�ำไปเลือกใช้ประกอบการเล่าเรื่องภาพยนตร์ และผู้ท�ำ
หน้าทตี่ ัดต่อภาพและเสยี งภาพยนตร์จะพิจารณาชอ็ ตภาพและเสียงจากการถ่ายทำ� ภาพยนตร์ ทถ่ี ูกส่งตอ่
มาเพอ่ื การตดั ตอ่ และผตู้ ดั ตอ่ จะทำ� หนา้ ทตี่ ดั สนิ ใจเพอ่ื ใชก้ ารตดั ตอ่ ภาพยนตรร์ ปู แบบใด โดยคำ� นงึ ถงึ การ
ส่ือเร่ืองเล่าและการสร้างอารมณ์ร่วมให้ผู้ชมไปพร้อมกับเหตุการณ์การน�ำเสนอภาพยนตร์ในแต่ละฉาก
รูปแบบการตดั ต่อภาพยนตรท์ ่ีสำ� คัญและถูกนำ� ไปใชต้ ัดตอ่ ภาพยนตรโ์ ดยท่วั ไป สรปุ ได้ดังนี้
1. การตัดต่อภาพยนตร์แบบแมทคัต (match Cut) คือ การตดั ตอ่ ภาพยนตร์ท่ีถกู ถา่ ยทำ� ผา่ น
ชอ็ ตภาพและเสยี งทมี่ คี วามตอ่ เนอื่ ง การตดั ตอ่ ภาพยนตรจ์ งึ ตอ้ งทำ� ใหเ้ กดิ ความตอ่ เนอื่ งระหวา่ งชอ็ ต โดย
เน้นความต่อเน่ืองท่ีส�ำคัญคือ ความต่อเนื่องของการแสดง ความต่อเนื่องของสายตาการมองของผู้แสดง
ความตอ่ เนอื่ งขององคป์ ระกอบสำ� คญั ของชอ็ ตคอื ขนาดภาพ มมุ ภาพ มมุ กลอ้ ง และการเคลอ่ื นไหวกลอ้ ง
และความต่อเนื่องของเสียงระหว่างช็อต การตัดต่อภาพยนตร์แบบแมทคัตจะมีท่ีมาจากการถ่ายท�ำช็อต
ภาพตอ่ เน่อื ง ซึง่ ใช้กฎ 180 องศา ต้ังกล้องถ่ายไมข่ า้ มเส้น 180 องศา เพือ่ รกั ษาทิศทางความต่อเนื่องของ
การถ่ายทำ� ระหว่างชอ็ ต ทำ� ใหช้ ็อตภาพท่ถี า่ ยท�ำมคี วามต่อเนื่อง น�ำมาตัดต่อแล้วผชู้ มไมร่ ูส้ กึ เหน็ รอยตัด
ตอ่ ระหว่างชอ็ ต
2. การตัดต่อภาพยนตร์แบบเรียบเรียง (compilation cutting) คอื การตดั ตอ่ ทไี่ มเ่ นน้ ความตอ่
เน่อื งของชอ็ ตภาพ แตใ่ ช้เสียงบรรยาย (narration) หรือเสียงเหนอื ฉาก (voice over) ของตัวละครใน
ฉาก ทำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ สว่ นประกอบสำ� คญั เชอื่ มโยงการเลา่ เรอื่ งผา่ นชอ็ ตภาพไมต่ อ่ เนอื่ งทน่ี ำ� มาตดั ตอ่ เขา้ ดว้ ย
กัน โดยยึดหลักการตัดต่อช็อตภาพไม่ต่อเน่ืองเข้าด้วยกัน โดยชุดภาพไม่ต่อเน่ืองระหว่างช็อตท่ีเลือกมา
ตดั ตอ่ ตอ้ งมคี วามสอดคลอ้ งกบั เสยี งเหนอื ฉากของตวั ละครหรอื เสยี งบรรยายทน่ี ำ� เสนอเนอ้ื หาการเลา่ เรอื่ ง
ของฉาก
3. การตดั ตอ่ ภาพยนตรแ์ บบคขู่ นาน (parallel cutting) คอื การตดั ตอ่ ภายใตเ้ งอื่ นไขการเลา่ เรอ่ื ง
เพ่ือให้ผู้ชมเห็นเหตุการณ์ภาพยนตร์มากกว่าหน่ึงฉากท่ีมีส่วนเก่ียวข้องกัน น�ำมาตัดต่อทิ้งจังหวะ
รับรู้เหตุการณ์จากฉากหนึ่ง แล้วตัดไปท่ีเหตุการณ์ในฉากท่ีสอง เม่ือผู้ชมรับรู้ว่าฉากท่ีสองน้ีเป็นอย่างไร