Page 118 - จุลยุทธการวงศ์
P. 118
จุลยุทธการวงศ์ 110044 เทศนาจุลยุทธการวงศ์
สองพระองค์ คือ พระนเรศวรราชกุมาร ๑ พระเอกกาทฐรุธราชกุมาร๑ ๑
จึ่งโปรดให้พระเชษฐโอรสไปครองพระพิศณุโลกยนคร ภายหลังกลับกระทำ
ยุทธสงครามกับกรุงหงษาวดีสืบไปเป็นหลายครั้ง สมเด็จพระมหาธรรม
ราชาธิราชเจ้า เสด็จดำรงราชพิภพอยู่ได้ ๒๒ พระวัสสา ก็ทิวงคตใน
ศักราช ๙๔๐ ปี๒
จ่ึงสมเด็จพระนเรศวร๓ เชษฐราชโอรส ได้มุรธาภิเษกสมบัติสืบไป
พระเจ้าหงษาวดี๔ ให้พระมหาอุปราชาราชบุตร ยกพยุหแสนยาทัพมา
ยุทธนาการ สมเด็จพระนเรศวรราชได้กระทำคชสงครามกับพระมหา
อุปราชา พระมหาอุปราชาถึงซึ่งปราชัยพินาศ ขาดคอช้างในท่ามกลางศึก
แล้วเสด็จยกจตุรงค์โยธาทัพไปตีกรุงกำพูชาธิบดี๕ ได้มาเป็นเมืองข้ึน
ภายหลังเสด็จไปตีกรุงหงษาวดี แล้วไปตีรตนะบุระอังวะ๖ เสด็จโดยทาง
เมืองเชียงใหม่ พอทรงพระประชวรหนักลง ก็ทิวงคต ณ เมืองห้างหลวงใน
ระหว่างมัคมรรคาในกาลเมื่อศักราช ได้ ๙๕๔ ปี๗ มุขมนตรีก็อัญเชิญ
๑ในเทศนาจุลยุทธการวงศ์ ที่พิมพ์ในประชุมพงศาวดาร ภาคท่ี ๖๖ ฉบับ พ.ศ. ๒๔๘๐
ออกพระนามว่า “พระเอกาทศรฐ” ส่วนในประชุมพงศาวดาร เล่ม ๔๑ ฉบับ พ.ศ. ๒๕๑๒
ออกพระนามว่า “พระเอกกาทศรถ” หรือปัจจุบันนิยม เขียนว่า “พระเอกาทศรถ”
๒ตรงกับ พ.ศ. ๒๑๒๑ แต่คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทยได้ตรวจสอบชำระและให้
ข้อวินิจฉัยถึงปีสวรรคต หรือปีสิ้นสุดรัชกาลไว้ว่าเป็น พ.ศ. ๒๑๓๓ ซ่ึงตรงกับศักราชที่ระบุใน
พระราชพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐ
๓สมเด็จพระนเรศวรมหาราชแห่งราชวงศ์สุโขทัย เสด็จข้ึนเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นกษัตริย์
ปกครองกรุงศรีอยุธยา ระหว่าง พ.ศ. ๒๑๓๓-๒๑๔๘ (ที่มา: คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย)
๔หมายถึง พระเจ้าหงสาวดี นันทบุเรง
๕ปัจจุบันนิยมเขียนว่า “กรุงกัมพูชาธิบดี”
๖รัตนบุระอังวะ หรือ รัตนะบุระอังวะ ก็เขียน
๗ตรงกับ พ.ศ. ๒๑๓๕ แต่คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย ได้ตรวจสอบชำระและให้
ข้อวินิจฉัยถึงปีสวรรคต หรือ สิ้นสุดรัชกาลไว้ว่าเป็น พ.ศ. ๒๑๔๘