Page 113 - จุลยุทธการวงศ์
P. 113
จุลยุทธการวงศ์ 9999 เทศนาจุลยุทธการวงศ์
ทรงอุทิศสร้างจุลามณีอาราม๑ แล้วเสด็จออกทรงบรรพชาได้ ๘ เดือนก
็
ลาผนวช พระองค์เสวยราชสมบัติ ๑๖ ปีก็ทิวงคต
ในลำดับน้ัน พระอินทราชา๒ ราชโอรส ได้มุรธาภิเษกสืบสมบัติ
พระองค์ได้เศวตกิริณีเป็นศรีพระนคร ในกาลเมื่อจุลศักราชล่วงได้ ๘๑๕ ปี๓
และพระองค์กระทำมหามหกรรม การฉลองพระศรีรัตนมหาธาตุวิหาร ถวาย
มหาทานแก่พระภิกษุสงฆ์เป็นอันมาก ให้เล่นการมหรสพสมโภช ๑๕ วัน แล้ว
ต้ังพระบรมราชาราชบุตร เป็นพระยาอุปราช เสด็จดำรงราชมไหศวรีย์ ๒๒
พระวัสสา ก็ทิวงคตในกาลเม่ือจุลศักราชล่วงได้ ๘๓๕ ปี๔
จึงพระยาอุปราชราชโอรส ได้เสวยราชสมบัติถวายพระนาม
พระรามาธิบดี๕ ให้ปฏิสังขรณ์พระศรีสรรเพชดาราม ซ่ึงค้างอยู่แต่ก่อนน้ัน
ให้สำเร็จ แล้วทรงหล่อพระพุทธปฏิมากรยืนใหญ่พระองค์หน่ึง กำหนด
โดยสูงแต่พระบาทถึงยอดพระรัศมี คณนาได้ ๘ วา ถวายพระนามพระศรี
สรรเพชดาญาณ คิดทองหล่อหนักถึง ๕๓,๐๐๐ ชั่ง ทองคำแผ่หุ้มหนัก
๒๘๖ ชั่ง ข้างหน้าน้ันเน้ือเจ็ด ข้างหลังเน้ือหก ประดิษฐานไว้ในพระมหา
วิหาร แล้วกระทำมหามหกรรมการฉลอง ทรงบำเพ็ญมหาทาน ๗ วัน
๑ปัจจุบัน คือ วัดจุฬามณี ในจังหวัดพิษณุโลก
๒สมเด็จพระบรมราชาธิราชท่ี ๓ หรือ สมเด็จพระอินทราชาธิราชท่ี ๒ หรือ พระอินทราชา
ที่ ๒ แห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิ เสด็จข้ึนเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นกษัตริย์ปกครองกรุงศรีอยุธยา
ระหว่าง พศ. ๒๐๓๑ - ๒๐๓๔ (ท่ีมา: คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย)
๓พ.ศ. ๑๙๙๖
๔ตรงกับ พ.ศ. ๒๐๑๖ แต่คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย ได้พิจารณาตรวจสอบ
และให้ข้อวินิจฉัยถึงปีสวรรคตของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๓ ว่าเป็น พ.ศ. ๒๐๓๔ ซ่ึง
ตรงกับศักราชท่ีระบุในพระราชพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐ
๕สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ แห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิ เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็น
กษัตริย์ปกครองกรุงศรีอยุธยา ระหว่าง พ.ศ. ๒๐๓๔-๒๐๗๒ (ท่ีมา: คณะกรรมการชำระ
ประวัติศาสตร์ไทย)