Page 112 - จุลยุทธการวงศ์
P. 112

จุล​ยุทธการ​วงศ์ 	9988 เทศนาจุลยุทธการวงศ์


สมบัติได้ ๑๗ ปี ก็ทิวงคต ในกาลเมื่อจุลศักราชล่วงได้ ๗๙๖ ปี๑ เป็น
กำหนด


      ในกาลน้ันพระราเมศวรราชโอรส ได้ราชาภิเษกสืบขัตติยสกุลต่อ
มา ทรงพระนามสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ๒ จึงยกพระราชวังสร้างเป็น
พระ (อา)๓ ราม ให้นามช่ือว่า พระศรีสรรเพชดาราม๔ แล้วเสด็จไปสร้าง
พระราชนิเวศอยู่ใกล้ฝั่งน้ำ ให้สร้างปราสาททั้งสอง ให้นามเบ็ญจรัตน
ปราสาท๕ หนึ่ง สรรเพชปราสาท๖ หนึ่ง แล้วพระราชทานหมู่อำมาตย์ท้ัง
หลาย มีสมุหนายกและสมุหพระกลาโหม๗ เป็นต้น และตำแหน่งนาโดย
ลำดับฐานันดรศักดิ์ท้ังปวงแล้ว ทรงสร้างพระรามาวาศวิหาร๘ ในที่ถวาย
พระเพลิงสมเด็จพระเจ้ารามาธิบด๙ี อันสร้างพระนครน้ัน แล้วหล่อรูปพระ
โพธิสัตว์ทั้ง ๕๕๐ พระชาติ กาลเม่ือจุลศักราชล่วงได้ ๘๑๐ ปี๑๐ พระองค์

	 ๑ตรงกับ พ.ศ. ๑๙๗๑ แต่คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย ได้พิจารณาตรวจสอบ
และให้ข้อวินิจฉัยถึงปีสวรรคตของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๒ ว่าเป็น พ.ศ. ๑๙๙๑ ซ่ึงตรง
กับศักราชท่ีระบุในพระราชพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐ

	 ๒สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ แห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิ เสด็จข้ึนเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็น

กษัตริย์ปกครองกรุงศรีอยุธยา ระหว่าง พ.ศ. ๑๙๙๑-๒๐๓๑ (ท่ีมา: คณะกรรมการชำระ

ประวัติศาสตร์ไทย)

	 ๓ในต้นฉบับเอกสารโบราณ สมุดไทยดำ หอสมุดแห่งชาติ เขียนไว้ว่า “...สร้างเป็น
พระราม...” ไม่มีคำว่า “อา” ซ่ึงเม่ือพิจารณาข้อความข้างเคียงแล้ว สันนิษฐานว่าน่าจะตก

คำว่า “อา”

	 ๔ปัจจุบัน คือ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

	 ๕พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา พ.ศ. ๒๕๑๖ ใช้ว่า พระที่น่ังเบญจรัตนมหา
ปราสาท

	 ๖พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา พ.ศ. ๒๕๑๖ ใช้ว่า พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท

	 ๗สมุหกระลาโหม หรือ สมุหกลาโหม ก็เรียก

	 ๘ปัจจุบันคือ วัดพระราม ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

	 ๙หมายถึง สมเด็จพระรามาธิบดีท่ี ๑ (พระเจ้าอู่ทอง)

	 ๑๐ตรงกับ พ.ศ. ๑๙๙๑
   107   108   109   110   111   112   113   114   115   116   117