Page 107 - จุลยุทธการวงศ์
P. 107
จุลยุทธการวงศ์ 9933 เทศนาจุลยุทธการวงศ์
แก่บุรุษแสนปมให้ใส่แพลอยไปถึงที่ไร่มะเขือ ไกลจากพระนครทางวันหนึ่ง
บุรุษแสนปมก็พาบุตรภริยาข้ึนสู่ไร่อันเป็นท่ีอยู่ ด้วยอานุภาพแห่งบุญของ
ชนทั้งสาม บันดาลให้สมเด็จอมรินทราธิราช นิมิตกายเป็นวานรนำเอา
ทิพยเภรีมาส่งให้ชายแสนปมนั้น แล้วตรัสบอกว่า ท่านจะปรารถนา
สิ่งใดจงตีเภรีนี้ อาจให้สำเร็จที่ความปรารถนาท้ังสิ้น บุรุษแสนปมปรารถนา
จะให้รูปงามจึงตีกลองนั้นเข้า อันว่าปมเปาท้ังปวงก็อันตรธานหาย รูปกาย
น้ันก็งามบริสุทธ์ิ จึงนำเอากลองน้ันกลับมาสู่ที่สำนัก แล้วบอกเหตุ
แก่ภริยา ส่วนพระนางนั้นก็กอปรด้วยปีติโสมนัส จึงตีกลองนิมิตทอง ให้
ช่างกระทำอู่ทองให้พระราชโอรสไสยาสน์ เหตุดังนั้นพระราชกุมารจึงได้
พระนามปรากฏว่าเจ้าอู่ทองจำเดิมแต่น้ันมา ในเม่ือกาลเมื่อจุลศักราชล่วง
ได้ ๖๘๑ ปี๑ ส่วนว่าบิดาแห่งเจ้าอู่ทองราชกุมาร จึ่งประหารซ่ึงทิพยเภรี
นิมิตเป็นพระนครขึ้นในท่ีน้ัน ให้นามช่ือว่าเทพนครเหตุสำเร็จ (ด้วย)๒
เทวดานุภาพ มหาชนทั้งปวงชวนกันมาอาศัยอยู่ในพระนครนั้นป็นอันมาก
พระองค์ก็ได้เสวยไอศุริยสมบัติในเมืองเทพนคร ทรงพระนามกรช่ือพระเจ้า
สิริไชย๓ เชียงแสนปรากฏในสยามประเทศ กาลเม่ือจุลศักราชล่วงได
้
๗๐๖ ปี๔ สมเด็จพระเจ้าศิริไชยเชียงแสนเสด็จดับขันธ์ทิวงคต กลองทิพย์
น้ันก็อันตรธานหาย สมเด็จพระเจ้าอู่ทองราชโอรสได้เสวยราชสมบัติแทน
พระราชบิดาได้ ๖ พระวัสสา ทรงพระปรารภจะสร้างพระนครใหม่ จ่ึงใช้
ราชบุรุษให้เท่ียวแสวงหาภูมิประเทศท่ีอันมีพรรณมัจฉาชาติบริบูรณ์ครบ
๑พ.ศ. ๑๘๖๒
๒ในต้นฉบับสมุดไทยดำ ไม่มีคำ (ด้วย)
๓เทศนาจุลยุทธการวงศ์ ท่ีพิมพ์ในประชุมพงศาวดาร ภาคท่ี ๖๖ ฉบับ พ.ศ. ๒๔๘๐ และ
ในประชุมพงศาวดาร เล่ม ๔๑ ฉบับ พ.ศ. ๒๕๑๒ ใช้ว่า “พระเจ้าสิริชัยเชียงแสน”
๔พ.ศ. ๑๘๘๗