Page 106 - จุลยุทธการวงศ์
P. 106
จุลยุทธการวงศ์ 9922 เทศนาจุลยุทธการวงศ์
ตรงหน้าช้างพระท่ีนั่ง ตรัสบอกให้ตั้งพระนครในท่ีนี้เป็นชัยมงคลสถาน
บรมกษัตริย์ก็ให้สร้างพระนครลงในที่นั้น จึงให้นามชื่อว่าเมืองไตรตรึงษ์๑
พ ร ะ อ ง ค์ เ ส ว ย ไ อ ศุ ริ ย ส ม บั ติ อ ยู่ ใ น พ ร ะ น ค ร นั้ น ต ร า บ เ ท่ า ทิ ว ง ค ต
พระราชโอรสนัดดาครองสมบัติสืบๆ กันมาถึงสี่ช่ัวกษัตริย์
ครั้งนั้นยังมีบุรุษผู้หน่ึง เป็นปมเปาทั่วทั้งกาย ทำไร่ปลูกพริก
มะเขืออยู่ในแดนพระนครน้ันเก็บผลพริกมะเขือขายเลี้ยงชีวิต และมะเขือ
ต้นหน่ึงน้ันอยู่ใกล้ห้าง บุรุษนั้นไปถ่ายปัสสาวะลงที่ริมต้นน้ันเป็นนิจ
มะเขือนั้นออกผล ผลหน่ึงใหญ่กว่าผลมะเขือท้ังปวง เหตุซาบไปด้วยรส
แห่งมูตรอันเจือด้วยสัมภวะ พอพระราชธิดาพระยาไตรตรึงษ์มีพระทัย
ปรารถนาจะเสวยผลมะเขือ จึงใช้ทาสีไปเท่ียวซ้ือ ก็ได้ผลมะเขือผลใหญ่
น้ันมาเสวย นางก็ทรงครรภ์ ทราบถึงพระราชบิดาตรัสไต่ถาม ก็ไม่ได้
ความว่าคบหาสมัครสังวาสกับด้วยบุรุษผู้ใด จนพระครรภ์ใหญ่กำหนด
ทศมาสประสูติพระราชกุมาร อันบริบูรณ์ด้วยบุญธัญลักษณ์พระญาติ
ทั้งหลายอภิบาลบำรุงเล้ียงพระราชกุมารจนค่อยวัฒนาการ ประมาณ
พระชนม์สองสามขวบ สมเด็จพระอัยกาปรารถนาจะทดลองเสี่ยงทาย
แสวงหาบิดาพระราชกุมาร จึงให้ตีกลองป่าวร้องบุรุษชาวเมืองให้ส้ิน
บมิได้เศษ ให้มีมือถือขนมแลผลาผลมาทุกคนๆ ประชุมพร้อมกันใน
หน้าพระลาน ทรงพระอธิษฐานว่าถ้าบุรุษผู้ใดเป็นบิดาของทารกนี้ ขอจง
ทารกน้ีรับเอาส่ิงของในมือแห่งบุรุษนั้นมาบริโภค แล้วให้อุ้มกุมารนั้นออก
ไปสู่ท่ีมหาชนสันนิบาต และบุรุษกายปมนั้นได้แต่ก้อนข้าวเย็นถือมาก้อนหนึ่ง
พระราชกุมารน้ันก็เขากอดเอาคอ แล้วรับเอาก้อนข้าวมาบริโภค ชนทั้ง
ปวงเห็นก็พิศวงชวนกันกล่าวติเตียนต่างๆ สมเด็จบรมกษัตริย์ก็ละอาย
พระทัย ได้ความอัปยศ จึงพระราชทานพระราชธิดาและพระนัดดานั้นให้
๑ปัจจุบันเขียนว่า “เมืองไตรตรึงส์”