Page 7 - ศิริวิบุลกิตติ์
P. 7
คำนำ
ศิริวิบุลกิตต์ิ เป็นวรรณกรรมท่ีมีเค้าโครงเร่ืองมาจากชาดกเร่ืองหนึ่งใน
ปัญญาสชาดก หลวงศรีปรีชา (เซ่ง) ได้ประพันธ์ด้วยกลอนกลบท ซึ่งได้รับการ
ยกย่องว่าเป็นตำรากลอนกลบทท่ีสำคัญเรื่องหนึ่ง แต่การศึกษาเชิงประวัติ
วรรณคดีของเรื่องน้ีไม่แพร่หลายเท่าท่ีควร เดิมสันนิษฐานว่า ศิริวิบุลกิตติ์เป็น
ตำรากลอนกลบทของเก่าแต่คร้ังกรุงศรีอยุธยา ในหนังสือน้ันบอกไว้ว่า หลวงศรี
ปรีชา ชื่อเซ่ง แต่งถวายกรมพระราชวังบวรฯ สันนิษฐานว่ากรมพระราชวังบวรฯ
พระองค์น้นั เ หน็ จะเป็นเ จา้ ฟา้ ธรรมธเิ บศในรชั กาลพ ระเจา้ อยหู่ วั บ รมโ กศ
อย่างไรก็ตาม ต่อมาได้มีการศึกษาเพ่ิมเติม โดยพิจารณาจากวันเดือนปี
ท่ีปรากฏในเน้ือเร่ือง ศึกษาเปรียบเทียบกับข้อมูลทางโหราศาสตร์และ
ประวัติศาสตร์ ทำให้ได้ข้อสันนิษฐานใหม่ว่า กลบทศิริวิบุลกิตติ์ แต่งในสมัย
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก กรุงรัตนโกสินทร์ มิใช่ในสมัยของ
พระเจ้าอย่หู วั บ รมโ กศ กรงุ ศ รีอยุธยา ตามท่เี คยเขา้ ใจก นั แต่ความเหน็ ด งั ก ลา่ ว
ยังไม่เป็นท ่ียตุ ิ
ศิริวิบุลกิตติ์ได้รับการตีพิมพ์เป็นคร้ังแรกในปี พ.ศ. ๒๔๕๗ รวมอยู่ใน
หนังสือชุมนุมตำรากลอน ของหอพระสมุดวชิรญาณ แม้มีการพิมพ์ซ้ำอีกหลาย
คร้ังภายหลังแต่ก็มักจะพิมพ์รวมอยู่กับวรรณกรรมเร่ืองอ่ืน มหาวิทยาลัยจึง
พิจารณาว่าควรมีการนำมาพิมพ์เป็นเล่มเฉพาะ เพื่อสะดวกแก่การเผยแพร่ไปยังผู้
อ่านท่ัวไป เพราะนอกจากหนังสือดังกล่าวได้รับการยกย่องว่าเป็นตำรากลอน
กลบทแล้ว เมื่อครั้นได้อ่านจะพบว่ากลอนกลบทให้ความไพเราะในจังหวะการอ่าน
เป็นอย่างย่ิง นับเป็นวรรณกรรมท่ีถึงพร้อมด้วยรสคำและรสความจึงเป็นสิ่งท่ีควร
อนุรกั ษ์และเ ผยแ พร่ให้อนุชนรนุ่ ห ลังไดภ้ าคภมู ใิ จใ นภมู ิปญั ญาไทยเ ช่นน
้ี
(5)