Page 203 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 203
การค้า การลงทุน และการเงินระหว่างประเทศกับจริยธรรม 14-23
แรงงาน และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และได้มีการออกมาตรการทางด้านการค้าที่เกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าว ดังจะ
เห็นได้จากมาตรการเกี่ยวกับกระบวนการผลิต ผลิตภัณฑ์ แรงงาน การทำลายเศษเหลือทิ้ง การติดฉลาก และ
มาตรการเกี่ยวกับสิ่งแ วดล้อมอื่นๆ เพิ่มม ากขึ้น
จึงเห็นได้ว่า นโยบายการค้าระหว่างประเทศในปัจจุบันมีความเชื่อมโยงกับประเด็นทางด้านจริยธรรมเพิ่ม
มากขึ้น โดยมาตรการดังกล่าวจะอยู่ในส่วนของมาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี ซึ่งเป็นกฎระเบียบข้อบังคับ
ของร ัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการค้าร ะหว่างป ระเทศ ที่องค์การการค ้าโลกอนุญาตให้ใช้ได้ในกรณีของการส ่งเสริมการค ้า
ที่เป็นธรรม หรือมีสิทธิใช้เป็นข้อยกเว้นในกรณีฉุกเฉินและจำเป็น รวมทั้งเพื่อคุ้มครองชีวิตและสุขภาพมนุษย์ พืช
และสัตว์ ทั้งนี้จะต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติอย่างไม่มีเหตุผล และ/หรือไม่มีผลต่อการกีดกันการค้าอย่างแอบแฝง
และต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ภายใต้ความตกลงที่กำกับดูแล ซึ่งเป็นผลจากการเจรจาการค้ารอบอุรุกวัยในปี พ.ศ.
2536
มาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษีโดยส่วนใหญ่ถูกกำหนดขึ้นโดยประเทศที่พัฒนาแล้ว เพื่อเป็นการ
คุ้มครองผู้บริโภคภายในประเทศ แรงงานที่เกี่ยวข้องในการผลิต รวมถึงสภาพแวดล้อมโดยทั่วไป ซึ่งมาตรการ
ดังกล่าวของประเทศพัฒนาแล้วย่อมมีผลต่อประเทศกำลังพัฒนาด้วย เนื่องจากในการส่งสินค้าไปจำหน่ายในตลาด
ของประเทศที่พัฒนาแล้ว ผู้ส่งออกจากประเทศกำลังพัฒนาต้องดำเนินการผลิตสินค้าให้ได้ตามมาตรฐานที่ประเทศ
เหล่านั้นกำหนด ซึ่งจะกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศกำลังพัฒนา โดยตัวอย่างของมาตรการที่
เกี่ยวข้องเป็นดังนี้
4.1 มาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับมาตรฐานการผ ลิต
เป็นม าตรฐานท ี่เกี่ยวกับการคุ้มครองสิ่งแ วดล้อม โดยม าตรฐานท ี่พบในประเทศพ ัฒนาแล้ว ได้แก่ การห ้าม
จับปลาทูน่าโดยใช้อ วนลอยในแถบม หาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก (มาตรฐานท ี่กำหนดโดยประเทศส หรัฐอเมริกา) การ
จับกุ้งทะเลต้องมีการติดตั้งเครื่องมือตรวจสอบเต่าทะเล (มาตรฐานที่กำหนดโดยประเทศสหรัฐอเมริกา) และการ
ห้ามใช้ไม้จากป่าธ รรมชาติเป็นวัตถุดิบในก ารผ ลิตเฟอร์นิเจอร์ (มาตรฐานที่ก ำหนดโดยส หภาพยุโรป) นอกจากน ี้ยังม ี
พิธีสารเกียวโต ซึ่งเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมกระบวนการผลิตที่ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก โดยเป็นข้อตกลงระหว่าง
ประเทศท ี่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานสิ่งแ วดล้อมในด้านกระบวนการผลิต นอกจากน ี้ ยังม ีม าตรการท ี่เกี่ยวกับก ารผ ลิตที่
สำคัญดังนี้
• มาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practices) คือ หลักเกณฑ์ว ิธีการที่ด ีในการผลิตตาม
มาตรฐาน Codex Alimentarius Commission เพื่อให้มีการควบคุมให้มีสภาพแวดล้อมที่ดี ในการผลิตอาหาร
และแ ปรรูปอาหาร ซึ่งท ำให้ส ามารถผ ลิตอาหารได้อ ย่างปลอดภัย
• มาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices) คือ หลักเกณฑ์วิธีการผลิตที่ดีในการผลิต
ผลิตภัณฑ์เกษตรในภาคการเพาะปลูก การเลี้ยงสัตว์ และการประมง เพื่อให้การผลิตสอดคล้องกับมาตรฐาน
ส ุขอ นามัย และมาตรฐานความปลอดภัย
• มาตรฐาน HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Point) คือระบบการวิเคราะห์
และจ ุดวิกฤติที่ต้องควบคุมในการผ ลิตอาหาร เพื่อป้องกันอันตรายจากจ ุลินทรีย์ สารเคมี และสิ่งปนเปื้อนท ี่อาจเกิด
ขึ้นในอาหาร โดยระบบดังก ล่าวเป็นที่ยอมรับว ่าเป็นร ะบบควบคุมคุณภาพท ี่ดีที่สุด โดยผ ู้ประกอบก ารที่จ ะส่งออกไป
ยังต ลาดส หรัฐอเมริกาแ ละตลาดส หภาพย ุโรป จะต้องผ ่านมาตรฐานดังก ล่าว
เนื่องจากแต่ละประเทศสามารถกำหนดมาตรฐานและวิธีการรับรองของตนเองได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความ
ซ้ำซ ้อนในส ่วนข องก ารท ดสอบแ ละก ารร ับรองม าตรฐาน และบ างป ระเทศอ าจก ำหนดม าตรฐานท ี่เอื้อต ่อผ ู้ป ระกอบก าร
ภายในประเทศของตนเอง หากแต่ขัดขวางผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดการกีดกันทางการค้าทางด้าน
ลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลยั สุโขทัยธรรมาธริ าช